svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

แจ้งความ "ทนายธรรมราช" เอารถติดไฟแนนซ์ของลูกความไปใช้ไม่ยอมคืน

“อี้ แทนคุณ - ต้นอ้อ” พาผู้เสียหาย แจ้งความดำเนินคดี "ทนายธรรมราช" หลังเอารถติดไฟแนนซ์ของลูกความที่ถูกยึดไปใช้ เป็นเหตุให้ลูกความถูกอายัดบ้าน

วันที่ 28 ตุลาคม 2567 เวลา 10.00 น. ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายแทนคุณ จิตต์อิสระ หรือ "อี้แทนคุณ" ประธานชมรมสันติประชาธรรม พร้อมด้วย น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ หรือ "ต้นอ้อ" เป็นหนึ่ง ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง พานายวิศิษฐ์ ปิ่นบ้านกวย (สงวนชื่อนามสกุล) อายุ 43 ปี อาชีพวิศวกร ผู้เสียหายที่เคยเป็นลูกความของนายธรรมราช สาระปัญญา หรือ ทนายธรรมราช เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน หลังถูกทนายคนดังกล่าว นำรถที่ถูกยึดของลูกความไปใช้เอง ไม่คืนไฟแนนซ์ตามคำสั่งศาล เป็นเหตุให้ไฟแนนซ์ตามยึดทรัพย์อื่นๆของลูกความ

"อี้ แทนคุณ" เปิดเผยว่า ตนมาในวันนี้ เพื่อปราบ ทนาย "อธรรม" โดยเหตุเกิดจากการที่ผู้เสียหาย หลงเชื่อการโฆษณาชวนเชื่อว่าทนายคนดังกล่าวเป็นคนดี ปกป้องพระพุทธศาสนา ทำโครงการเชื่อมจิต เชื่อมกล้วย จนได้การยอมรับว่ามีฝีมือและมีชื่อเสียง ซึ่งผู้เสียหายมีปัญหาเรื่องรถมอเตอร์ไซต์ยี่ห้อหนึ่งที่ติดไฟแนนซ์ ถูกไฟแนนซ์ร้องต่อศาลเป็นคดี ผู้เสียหายจึงไปหาทนายคนดังกล่าว และขอให้ทนายช่วย โดยจ่ายค่าจ้างไป 25,000 บาท และทางผู้เสียหายขอผ่อน ทนายคนดังกล่าวจึงคิดราคาค่าจ้างรวมค่าผ่อนเป็น 30,000 บาท 

แจ้งความ \"ทนายธรรมราช\" เอารถติดไฟแนนซ์ของลูกความไปใช้ไม่ยอมคืน

หลังจากนั้นศาลมีคำพิพากษาให้ทางผู้เสียหายคืนรถ และจ่ายค่าส่วนต่าง ผู้เสียหายก็ยินดีที่จะคืนเงิน และรถให้ แต่ปรากฏว่าทนายคนดังกล่าวบอกกับผู้เสียหายว่า อย่าเอาไปคืนเอง หากมีการเซ็นเอกสารผิดพลาดขึ้นมาจะทำให้รูปคดีเสียหาย ตัวทนายอ้างว่า เป็นนักกฎหมายที่เชี่ยวชาญจะจัดการให้ ให้เอารถไปมอบให้ทนายที่สำนักทนายความแห่งหนึ่ง 
ทั้งนี้ เมื่อผู้เสียหายนำรถไปให้ทนายพร้อมคู่มือเล่มสีเหลือง กับสีแดงรวมไปถึงกุญแจรถ หลังจากนั้นประมาณ 4-5 วัน พบว่ามีคนในกลุ่มโพสต์ขายเล่มเหลืองเล่มแดงของตนที่ไปฝากกับทนายไว้  ตนจึงทวงถามทนาย แต่ทนายบอกว่าเล่มยังอยู่ปกติดี ตนจึงไม่ได้สงสัยอะไร

แจ้งความ \"ทนายธรรมราช\" เอารถติดไฟแนนซ์ของลูกความไปใช้ไม่ยอมคืน

ต่อมา ทางไฟแนนซ์ก็มีการติดตามทางผู้เสียหายว่าไม่ได้รถคืน ทางผู้เสียหายจึงมีการทวงถามกับทนายอยู่ตลอดว่า นำรถไปคืนแล้วหรือไม่ ปรากฏว่ามีภาพทนายดังกล่าวนำมอเตอร์ไซค์ไปขับขี่เอง ซ้ำร้ายกว่านั้น ยังมีหมายศาลมาอีกฉบับหนึ่ง เป็นการอายัดบ้านที่ดอนเมืองของผู้เสียหาย เมื่อทวงถามทนายก็บอกว่า รถไม่ได้อยู่ที่สำนักงาน และบอกว่ารถอยู่ที่บ้านของทนายที่ จ.สระแก้ว แล้วบอกกับผู้เสียหายว่า รถมีปัญหาเครื่องร้อน เมื่อผู้เสียหายได้รถคืนพบว่า รถมีปัญหาไม่สามารถใช้งานได้ จึงต้องนำไปซ่อม และไปประเมินราคาขายเพื่อจ่ายไฟแนนซ์ไม่ให้ยึดบ้าน

นอกจากนี้ ผู้เสียหายต้องไปรวบรวมกู้เงิน เพื่อไถ่บ้าน โดยผู้เสียหายนอกจากจะเสียเงินเพิ่มแล้วยังเสียเครดิตอีกด้วย จึงได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ในวันนี้

แจ้งความ \"ทนายธรรมราช\" เอารถติดไฟแนนซ์ของลูกความไปใช้ไม่ยอมคืน