svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

"เอกภพ" แฉ "บอสพอล" ให้คนรู้ใจ ถือรหัสทำธุรกรรมทรัพย์ดิจิทัลแทน

"เอกภพ" แฉ "บอสพอล" ให้คนรู้ใจ ถือรหัสทำธุรกรรมทรัพย์ดิจิทัล หวัง ตร.ค้นก่อนโดนโยก พร้อมพาพยานสำคัญพบ "บิ๊กเต่า" ให้ข้อมูลเบื้องหลังการจ่ายเงินเทวดาของ "ดิไอคอน"

21 ตุลาคม 2567 ที่ บก.ปปป. นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด นำพยานคนสำคัญในคดี "ดิไอคอน" เข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และผู้การ ปปป. โดยเฉพาะประเด็นคลิปเสียงสนทนา และการจ่ายเงินให้กับกลุ่มเทวดา โดยก่อนหน้านี้พยานคนดังกล่าว นายเอกภพ ได้เข้ามาให้ข้อมูลกับตำรวจสอบสวนกลางไปแล้วเมื่อวันที่ 15 ต.ค. ที่ผ่านมา 

นายเอกภพ กล่าวว่า วันนี้ได้รับการประสานจาก พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เกี่ยวกับเรื่องเส้นเงินที่สายลับทราบเรื่อง เพื่อนำไปสู่การจับกุม ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องให้ข้อมูลกับตำรวจดีกว่า และเชื่อว่าตำรวจสอบสวนกลาง มีวิธีการแยกแยะข้อมูล แบบเจาะลึกได้มากกว่า และพยานเขามีความมั่นใจในตำรวจสอบสวนกลาง และ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ในการทำงานด้วย

ส่วนข้อมูลจากพยานคนนี้ มีความน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหนนั้น นายเอกภพ ระบุว่า เท่าที่ฟังจากพยาน ข้อมูลหลายอย่างก็มีการตรงกับกระแสข่าว เช่น บุคคลในคลิปเสียง ก่อนจะมีคลิปเสียงหลุดออกมา พยานบอกก่อนหน้านั้นว่า มีคนในบริษัทและบุคคลใกล้ชิดบอสพอล บอกว่า บอสพอลคุยกับ ลูกกรอก ตอนแรกตอนก็ไม่คิดว่าจะใช่ เพราะบุคคลในคลิปเสียงเป็นแค่ลูกกรอก แต่หลังจากนั้น 2 วัน คลิปเสียงก็หลุดออกมา ทั้งที่พยานคนนี้ไม่รู้จักกับลูกกรอก (นักการเมือง ส.) และพยานยืนยันว่า ไม่ได้มีความขัดแย้งหรือเรื่องผลประโยชน์ใดๆ กับบริษัท เพียงต้องการให้นำเงินมาคืนผู้เสียหาย 
นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ
 

นอกจากนี้ยังพบว่า บอสพอล มีการพูดคุยกับบุคคลในฝ่ายการเมือง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบุคคลที่อยู่ในระดับสูงด้วย ส่วนตัวเลขการจ่ายส่วยให้กับ 5 หน่วยงาน และเทวดากว่าหมื่นล้านบาท ตามที่พยานเคยให้ข้อมูลไว้ จะเป็นตัวเลขที่แท้จริงหรือไม่นั้น ตนไม่สามารถตอบได้ ต้องให้ตำรวจเป็นผู้สืบสวน

นายเอกภพ กล่าวอีกว่า เรื่องของการทำธุรกรรมการแลกเปลี่ยนเงินสกุลดิจิทัล ที่ตนเคยออกมาเปิดเผยว่า มีบุคคลที่เป็นบอส หนึ่งในผู้ต้องหา ที่ถูกจับกุมคนสุดท้าย ได้โยกเงินดิจิตอล จากสกุลเงิน USDT ไปซื้อเงินดิจิทัลสกุลเงิน อีเธอร์เรียม หรือ ETH เพราะพบความผิดปกติในช่วงเวลาก่อนที่บอสคนนี้ถูกจับประมาณ 1 ชั่วโมง มูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาทนั้น

หลังจากที่ตนมาร้องให้ตำรวจสอบสวนกลางตรวจสอบ ก็พบความผิดปกติ เพราะวันรุ่งขึ้นพบว่า บัญชีสกุลเงินดิจิตอลนี้ มีการเปลี่ยนไปซื้อเงินสกุลดิจิตอลอื่น แทนอิเธอร์เรียม ที่เป็นการตั้งค่าการซื้อไว้แบบอัตโนมัติ ทำตนเชื่อว่า มีบุคคลที่อยู่ข้างนอก ที่ไม่ได้ถูกจับกุม เป็นผู้ทำธุรกรรมแทน และมีรหัสผ่าน 24 หลัก สำหรับเข้า Hardware Wallet ซึ่งตอนนี้ ตนก็พอจะทราบข้อมูลบ้างแล้วว่าเป็นใคร 
บอสพอล
 

นายเอกภพ กล่าวว่า บุคคลนี้ที่ทำธุรกรรมแทน เป็นบุคคลที่ใกล้ชิดสนิทสนมกับบอสพอล เป็นบุคคลที่บอสพอลไว้ใจอย่างมาก เรียกว่าทำธุรกิจคู่กันมาเลย และคอยปรึกษาคนนี้ตลอด ซึ่งตนมีหลักฐานความสนิทสนมของคนทั้งคู่ และบุคคลนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด แต่เป็นบุคคลที่เก่งเรื่องระบบเงินดิจิตอล ซึ่งบุคคลนี้ มีกิจการเป็นบริษัทของตนเอง แต่ไม่ใช่คนดังที่สังคมรู้จัก

โดยกิจการของบุคคลนี้ก็น่าเชื่อว่า ได้รับเงินมาจากบริษัท ดิไอคอน มาผ่องถ่ายเข้าไป และบุคคลคนนี้น่าสนใจมาก และยังอยู่ในกรุงเทพมหานคร และถือว่า บอสพอลมีความรอบคอบในการเลือกบุคคลนี้ จึงต้องมาให้ข้อมูลกับตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปสู่การเข้าตรวจค้นยึดทรัพย์ทันที เนื่องจากหากล่าช้า อาจมีการเคลื่อนย้ายทรัพย์สิน เพราะในห้วงที่ผ่านมาก็พบข้อมูลว่า เครือข่ายของ "บอส ส." ในจังหวัดปทุมธานี ทยอยเคลื่อนทรัพย์สินไปบางส่วนแล้ว แต่หากตำรวจสอบกลางยังไม่พร้อมดำเนินการ ตนก็จะนำข้อมูลไปมอบให้กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ เข้าตรวจสอบ

เมื่อถามว่า มีข้อมูลจากพยานเรื่องของการฟอกเงินหรือไม่ นายเอกภพ ระบุว่า บางอย่างพูดไปแล้วจะเสียรูปคดี ให้พยานไปให้ข้อมูลกับตำรวจดีกว่า 

เมื่อถามย้ำว่า แล้วบริษัทดิไอคอน มีเงินที่มาจากธุรกิจสีเทาหรือไม่ นายเอกภพ กล่าวว่า “ยังชี้ไม่ได้ชัด แต่อยากให้ตั้งข้อสังเกตว่า จุดที่บริษัทดิไอคอนตั้งอยู่ อยู่ใกล้กับบริษัทบางบริษัทมากๆ ที่เคยเป็นประเด็นเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทา แต่ตนไม่ได้บอกว่าจะเขื่อมโยงกันหรือไม่ แค่ตั้งข้อสังเกตุว่าอยู่ใกล้กัน ส่วนจะเคยทำธุรกิจทางนี้มาก่อนหรือไม่ ตนไม่ทราบ”

ส่วนกรณีที่ ทาง ปปง.ระบุว่า เงินสกุลดิจิตอล อาจจะไม่สามารถตรวจยึดได้ เพราะเป็นการซื้อขายนอกระบบนั้น นายเอกภพ ระบุว่า คงเป็นเรื่องกฎหมายระหว่างประเทศ และระบบ KYC หรือระบบสแกนหน้า การจะเข้าไปทำธุรกรรมทางการเงิน ต้องเข้าไปสแกนใบหน้า แต่ประเทศที่พบการทำรายการโยกสกุลเงินดิจิตอล พบว่ามีการโอนเงินไป 2ประเทศที่ไม่ต้องสแกนใบหน้า จึงโยกเงินไป 2 ประเทศนั้น ซึ่งกูรูหลายๆ คนที่มาบอกว่า ต้องสแกนใบหน้าๆ แต่เขาไม่ได้ทำธุรกรรมที่ต้องสแกนใบหน้าเท่านั้น ซึ่งเงินดิจิตอลเก็บที่ไหนก็ได้เขาเลือกเก็บได้  เพียงแค่เขามีฮาร์ดแวร์วอเล็ตตัวหนึ่งเท่านั้น

และวันนี้ที่ตนก็พยายามไปหาเส้นทางคริปโต แม้จะไม่มีความรู้ แต่มีความพยายามไปตามหา เพื่อนำมาคืนผู้เสียหาย โดยเฉพาะการตามหาฮาน์ดแวร์วอเล็ต ถ้ามีตัวนี้ ยกตัวอย่างหากถือไปเข้าคาสิโนในต่างประเทศ คนถือก็เล่นเป็นชิพ แล้วมาเล่นในคาสิโน จากนั้นก็เอาชิพ ไปแลกเป็นเงินสด ก็ได้การันตีแล้วว่า เงินมาจากคาสิโนที่เล่นได้ ก็กลายเป็นเงินที่ถูกกฎหมายในต่างประเทศแล้ว

ส่วนการออกมาเปิดเผยของพยานคนนี้ ที่เชื่อมโยงถึงนักการเมือง พยานมีความกังวลหรือไม่ นายเอกภพ กล่าวว่า “เขาก็คงพร้อมตายละมั้ง ต้องพร้อมรบแล้วล่ะเขาพูดขนาดนั้น“ พร้อมยืนยันว่า เขาไม่ได้มีส่วนได้เสียกับบริษัท และน่าจะเป็นส่วนที่เสียมากกว่า เพราะเขาเห็นคนหมดเนื้อหมดตัว หรือฆ่าตัวตายจากกรณีนี้ โดยยืนยัน การออกมาให้ข้อมูลครั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องผิดใจกัน เพราะพยานคนนี้ ไม่ได้ร่วมลงทุนทำธุรกิจร่วมกับบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป

สำหรับกรณีที่มีการเปิดเผยว่า มีนักร้องหญิงรีดทรัพย์เป็นจำนวน 10 ล้านบาท นายเอกภพ กล่าวว่า ตนอยากให้ใครที่มีคลิปเสียงต่างๆ ช่วยเปิดเผยออกมา และส่งที่เพจต่างๆ หรือเพจสายไหมต้องรอก็ได้ เรารับประกันว่า ทุกเสียงจะถูกเปิดให้สาธารณะได้ฟังอย่างแน่นอนว่า มีใครเกี่ยวข้องบ้างไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองหรือข้าราชการ เพราะกำจัดกลุ่มคนเหล่านี้หมดไป