“สภาทนายความ” ชี้ทนายนำรถลูกความไปใช้ผิด “ยักยอกทรัพย์-ผิดมรรยาททนาย”

จากกรณีที่ หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว มีใจความแฉทนายคนหนึ่ง ที่ได้นำรถของลูกความไปใช้ แล้วไม่คืนไฟแนนซ์ ทำให้ลูกความถูกฟ้องและบังคับคดียึดทรัพย์สิน 

 

8 ตุลาคม 2567 ที่สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ นายสุนทร พยักษ์ เลขาธิการสภาทนายความ พร้อมด้วย นายสงคราม สกุลพราหมณ์ อุปนายกฝ่ายบริหาร นายวีรศักดิ์ โชติวานิช อุปนายกฝ่ายเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรรมการประชาสัมพันธ์ และรองเลขาธิการสภาทนายความ  และ นายสุชาติ ชมกุล อุปนายกฝ่ายกิจการพิเศษ สภาทนายความ นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข และ กัน จอมพลัง ร่วมแถลงข่าวถึงเรื่องดังกล่าว 

 

 

 

 

 

 

 

โดย นายสงคราม สกุลพราหมณ์ อุปนายกฝ่ายบริหาร และ นายสุชาติ ชมกุล อุปนายกฝ่ายกิจการพิเศษ สภาทนายความ ชี้ กรณีดังกล่าวนั้นเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือผิดมารยาททนายความหรือไม่ โดยนักกฎหมายทั้ง 2 ท่านให้ความเห็นว่า

 

ในกรณีดังกล่าวนั้นมีทั้งความผิดที่เกิดจากอาญาเข้าข่ายในคดี "ยักยอกทรัพย์"  และ "ผิดมรรยาททนายความ" ซึ่งมีบทลงโทษถึงกับระงับใบประกอบวิชาชีพทนายความ ซึ่งในกรณีนี้ทางผู้เสียหายสามารถแจ้งความได้ในพื้นที่ที่ทนายความคนดังกล่าวเอารถไปใช้ และ สามารถยื่นเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับมรรยาททนายความ ได้ที่สภาทนายความเพื่อให้คณะกรรมการ ได้พิจารณาบทลงโทษต่อไป 

สภาทนายความรับเรื่องร้องเรียนพร้อมตั้งคณะทำงาน ด้านคดี “ดิไอคอนกรุ๊ป”

 

โดย นายสุนทร พยักษ์ เลขาธิการสภาทนายความ กล่าวว่า เนื่องจากคดีดังกล่าวนั้นถือเป็นคดีที่เร่งด่วน มีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก ที่ได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าว ประกอบกับทางสภาทนายความ ได้รับการประสานงาน ขอความช่วยเหลือ จากกระทรวงยุติธรรม ให้ ช่วยทำคดี ในลักษณะ การฟ้องร้องแบบกลุ่ม ให้กับผู้เสียหาย โดยไม่มีค่าใช้จ่าย 

ด้าน นายวีรศักดิ์ โชติวานิช อุปนายกฝ่ายเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรรมการประชาสัมพันธ์ และรองเลขาธิการสภาทนายความ กล่าวว่า ซึ่งกระบวนการในการยื่นคำร้องนั้น ให้ผู้เสียหายที่อยู่ในกรุงเทพมหานครเดินทางมายื่นเอกสารที่สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ 

 

ส่วนผู้เสียหายที่อยู่ต่างจังหวัด ให้ไปที่ทำการประธานสภาทนายความจังหวัด โดยเอกสารที่จำเป็นต้องใช้จะเป็นหลักฐานเกี่ยวกับการสมัครสมาชิก การโอนเงิน มูลค่าความเสียหาย ใบแจ้งความ และบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน 

 

โดยให้ทำสำเนามาและยื่นให้กับทางเจ้าหน้าที่ทนายอาสา โดยทางสภาทนายความจะให้ผู้เสียหายกรอกแบบฟอร์ม  หลังจากนั้นก็จะมาตรวจสอบว่าต้องมีการประสานขอเอกสารอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ 

 

ทั้งนี้การทำคดีจะเป็นการฟ้องแบบกลุ่ม ซึ่งจะแตกต่างจากการทำคดีสามัญทั่วไป โดยการฟ้องแบบกลุ่มนั้นจะต้องมีการไต่สวนคำร้องเพื่อขอทำคดีแบบกลุ่ม เมื่ออัยการอนุมัติจึงเริ่มทำคดีได้  และเมื่อรวบรวมพยานหลักฐานเสร็จแล้ว ก็จะทำการส่งฟ้องศาลตามปกติ โดยยืนยันว่าไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น 

 

สำหรับผู้เสียหายที่อยู่ในต่างประเทศ สามารถมอบอำนาจโดยประสานผ่านทางสถานทูตไทยในประเทศนั้นๆ และถึงแม้ว่าจะเป็นการโอนเงินจากต่างประเทศ แต่มูลความผิดของผู้ต้องหาอยู่ในประเทศไทย ซึ่งมองว่าสามารถดำเนินคดีได้ทั้งทางแพ่งและทางอาญา 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข  “กัน จอมพลัง” นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ พร้อมด้วยผู้เสียหายดิไอคอนเดินทางมาร้อง ที่สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์  เพื่อดำเนินการในส่วนของคดีแพ่ง

 

 

โดย นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ คุณกัน จอมพลัง ได้นำกลุ่มผู้เสียหายนับร้อยคน จากกรณี ดิ ไอคอน มาร้องที่สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อดำเนินการในส่วนของคดีแพ่ง  พร้อมเปิดเผยว่า ได้รับประสานจากนายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ว่าทางคดีแพ่งผู้เสียหายบางรายอาจยังไม่ได้ดำเนินการ หรือไม่รู้ว่าจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งทางสภาทนายความฯ ก็ยินดีที่จะให้ความช่วยเหลือ

 

ส่วนรายละเอียด ความช่วยเหลือ ก็ต้องรอให้ทางสภาทนายความว่าช่วยเหลือด้านใดบ้าง  /ซึ่งในวันนี้ได้มีการประสานชาวบ้านที่เป็นผู้เสียหายเข้ามาให้ข้อมูลกับทางสภาทนายความ ซึ่งตอนนี้ มีผู้เสียหายที่มาร้องที่กัน จอมพลังมีอยู่ประมาณ 200 กว่าคน  แต่ตนอยากให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนได้เข้าไปแจ้งความในสถานีตำรวจใกล้บ้านดีกว่า เดินทางมาที่กรุงเทพมหานคร ก็ต้องรอดูว่าหากประชาชนดูทางไกลจะมีการช่วยเหลืออย่างไรได้บ้าง

 

ส่วนกรณีที่ ทางดิ ไอคอน บอกว่าจะเยียวยาให้กับผู้เสียหาย จะฟ้องร้องได้หรือไม่นั้น ทางคุณกัน บอกว่าตอนนี้ทางผู้เสียหาย ที่อยู่ฝั่งของตนได้มีการเยียวยาไปแค่ 4 คน จากผู้เสียหายหลายร้อยคน เพราะในบางครั้งเค้าให้ลงบันทึกเอกสาร และข้อมูลไว้แต่จะเยียวยาหรือเยียวยาต้องรอดูอีกครั้ง

 

 

ทางด้าน นายกองตรีธนกฤต  ระบุว่า คดีแพ่งเป็นคดีคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งในเรื่องของการฟ้องคดี ก็จะไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ โดยทางสภาทนายความ จะฟ้องเป็นกลุ่มให้ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้เงินคืนจากการยึดทรัพย์ในครั้งนี้ โดยในวันนี้ก็จะมีการแนะนำขั้นตอนการดำเนินการกับทางผู้เสียหาย ส่วนใครที่ไปเรียกเงินจากประชาชน สามารถแจ้งข้อมูลเข้ามาได้ผ่านทางคุณกันจอมพลัง เพราะยืนยันว่าสภาทนายความ มีเงินจากรัฐบาลในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน

 

 

ขณะเดียวกันกันจอมพลังยังได้ระบุถึงกรณีที่มีสำนักข่าวแห่งหนึ่งนำเสนอสกูปข่าว ในลักษณะ มีตัวแทนบางคนของฝั่งผู้เสียหาย ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม อาจจะเป็นตัวละครหนึ่งที่มีเบื้องลึกเบื้องหลัง ในการช่วยเหลือบิ๊กบอสตัวจริงนั้น  กัน จอมพลัง ยืนยันว่า ไม่ใช่ตนอย่างแน่นอน และไม่มีใครมาเคลียร์ตนเองได้ และรู้สึกไม่สบายใจที่มีประเด็นข่าวลักษณะนี้ออกมา ซึ่งตนออกมาในครั้งนี้เพื่อปกป้องตนเอง ปกป้องคุณหนุ่ม กรรชัย และเคสผู้เสียหายของตนเอง ยืนยันว่าจะไม่มีการฟ้องกลับพยานที่มาให้ข้อมูลในสกูปข่าวดังกล่าว แต่เพียงต้องการที่จะชี้แจงข้อเท็จจริงในส่วนของตนเองเท่านั้น พร้อมยืนยันว่าไม่ได้มีการแบ่งหน้าที่กันทำงานตามที่มีการนำเสนอข่าวไป  

 

ด้าน ดร.ธนกฤต ระบุว่า ภาพที่นำไปใช้ในสกูปข่าวซึ่งมีภาพของตนเองปรากฏอยู่นั้น เป็นการลงพื้นที่ไปเพื่อตรวจสอบหลังมีการแจ้งให้มีการตรวจสอบหมอเถื่อน ซึ่งการนำภาพของตนเองไปอยู่ในสกู็ป อาจสร้างความเข้าใจผิดให้กับสังคมได้ และยังสร้างความบั่นทอนให้กับผู้ที่ตั้งใจเข้ามาช่วยเหลือประชาชนอย่างแท้จริง