svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

"ทนายนิด้า" ชี้ "ว.วชิรเมธี" แค่พรีเซนเตอร์ เทศน์ "อยากรวยเร็วก็ the icon แล้ว"

เริ่มบานปลาย "ทนายนิด้า" โพสต์เปรียบเทียบ "ว.วชิรเมธี" เป็นแค่พรีเซนเตอร์ เทศน์ "อยากรวยเร็วก็ the icon แล้ว" ไม่เข้าขั้นบอส หากจะเอาผิดตัวการแชร์ลูกโซ่ต้องพิสูจน์เจตนา เงินบริจาคไม่เข้าข่ายส่วนแบ่งรายได้

19 ตุลาคม 2567 เรื่องเริ่มบานปลาย จากกรณี ดิไอคอน” ที่มีการร้องทุกข์กล่าวโทษ “ว.วชิรเมธี” หรือ พระเมธีวชิโรดม พระนักเทศน์ชื่อดัง หลังพบว่ามีพฤติกรรมการเทศน์ในลักษณะของการสนับสนุนบริษัทดิไอคอน ที่เหล่าบรรดาบอสของบริษัท ถูกดำเนินคดีในฐานความผิดฉ้อโกงประชาชน และ พรบ.คอมพิวเตอร์ฯ 

กระทั่งมีการพาดพิงถึง “ว.วชิรเมธี” ในรายการทอล์ครายการหนึ่งอย่างร้อนแรง และ “ทนายเดชา” ประกาศเตรียมแจ้งความเอาผิด กระทั่งเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา “ทนายกุ้ง” อำนวยพร มณีวรร์ ทีมกฎหมายของ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดี พระอาจารย์ ว.วชิรเมธี ในฐานะตัวการสนับสนุนคนมาลงทุน ในข้อหาสนับสนุน ให้เกิดการฉ้อโกงประชาชน ดิไอคอนกรุ๊ป

ก่อนหน้านั้น พระอาจารย์ ว.วชิรเมธี ได้โพสต์จดหมายถึง “หนุ่ม กรรชัย” ผ่านเพจ “พระเมธีวชิโรดม - ว.วชิรเมธี” อย่างร้อนแรง 2 หน้ากระดาษ แต่หลังจากโพสต์ไปได้เพียง 30 กว่านาทีก็ลบโพสต์ทิ้ง โดยมีเนื้อหาดังนี้
\"ทนายนิด้า\" ชี้ \"ว.วชิรเมธี\" แค่พรีเซนเตอร์ เทศน์ \"อยากรวยเร็วก็ the icon แล้ว\" \"ทนายนิด้า\" ชี้ \"ว.วชิรเมธี\" แค่พรีเซนเตอร์ เทศน์ \"อยากรวยเร็วก็ the icon แล้ว\"

ความร้อนแรงกรณี “พระอาจารย์ ว.วชิรเมธี” กับ “ดิไอคอน” ยังคงระอุต่อเนื่อง เมื่อ น.ส.ศรันยา หวังสุขเจริญ หรือ “ทนายนิด้า” ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก “ทนายนิด้า”  ระบุข้อความว่า..

พระ ว. เทศน์
“อยากรวยเร็วก็ the icon แล้ว”
จะไปแจ้งความเอาผิดเรื่องอะไร ข้อหาอะไร ส่วนตัวยังไม่เห็นเข้าความผิดต่อกฎหมายอะไรเลย
เอาไม่เหมาะสมกับไม่ถูกกฎหมายมาปนกันไปหมด หัวจะปวด

จากนั้นได้เปิดใจให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวเนชั่นทีวี ระบุว่า “ไม่เข้าข่ายหลอกลวง ชี้ต้องแยกโทษความเหมาะสมทางวินัย”

อ่านสัมภาษณ์ "ทนายนิด้า" อย่างละเอียด >> คลิกที่นี่
\"ทนายนิด้า\" ชี้ \"ว.วชิรเมธี\" แค่พรีเซนเตอร์ เทศน์ \"อยากรวยเร็วก็ the icon แล้ว\"

“ทนายนิด้า” มอง "ว.วัชรเมธี" แค่พรีเซ็นเตอร์ 
ต่อมาเมื่อเวลา 22.09 น. วันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา “ทนายนิด้า” ได้โพสต์ข้อความมองว่า จะเอาผิด “ว.วชิรเมธี” ฐานะตัวการแชร์ลูกโซ่ต้องพิสูจน์เจตนา มองว่าเข้าข่ายเป็น “พรีเซนเตอร์ ที่ไม่ใช่ระดับบอส” โดยมีรายละเอียดระบุว่า...

“ ในส่วนของพระวอ จะเอาผิดในฐานะตัวการแชร์ลูกโซ่หรือผู้สนับสนุนในแชร์ลูกโซ่ ต้องพิสูจน์เจตนาพระวอ ให้ได้ว่าในขณะพระพูดนั้นพระทราบว่า the icon คือแชร์ลูกโซ่ หากพูดไปโดยไม่ทราบว่า the icon คือแชร์ลูกโซ่

ต่อให้มีลักษณะเชิญชวนมาเป็นครอบครัว the icon ก็ไม่อาจผิดได้เพราะขาดเจตนา ซึ่งการกระทำความผิดอาญานั้นจะขาดเจตนาไปไม่ได้เลย เว้นแต่กฎหมายจะระบุไว้เป็นอย่างอื่น

การที่พระวอ จะบอกว่าในขณะที่พูด ไม่มีเจตนาเพราะไม่รู้ว่าเป็นแชร์ลูกโซ่ ก็ค่อนข้างมีน้ำหนักว่าไม่ทราบได้ เพราะขนาดคนมีสี ข้าราชการทหาร ตำรวจ หรือแม้แต่ครอบครัวนักกฎหมายเองบางคนควรรู้ยิ่งกว่ายังไม่รู้เลยว่ามีลักษณะลูกโซ่จริงและไปเป็นเครือข่ายอยู่ และความก็เพิ่งมาแตกว่าเข้าข่ายเป็นแชร์ลูกโซ่ เพราะเมื่อไม่นานมานี้มันมีคนมาให้ข้อเท็จจริงกันไปในทิศทางเดียวกันเป็นจำนวนมากออกสู่สาธารณะนี่เอง 

ส่วนตัวไม่มองอะไรแบบไม่เป็นธรรม โดยจะไม่เอาความชอบหรือไม่ชอบมาบอกว่ากรณีใดเข้าข่ายผิดกฎหมายใดหรือไม่ผิด และไม่ยัดเยียดข้อเท็จจริงเกินไปกว่าความเป็นจริง แต่พิจารณาตามเหตุและผล และตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ

กรณีดังกล่าวพระวอเทียบได้กับพรีเซนเตอร์ที่ไม่ใช่ระดับบอสนะ 

ในส่วนของบอสดารา ที่อ้างว่าเป็นพรีเซ็นเตอร์ด้วยและเป็นบอสด้วย จะมีหน้าที่ในการโปรโมทด้วย ชักชวนคน สนับสนุน the icon ต่อประชาชน เพื่อเพิ่มจำนวนสมาชิกโดยมีวัตถุประสงค์คือผลประโยชน์จากส่วนแบ่งกำไรจากจำนวนสมาชิกที่เพิ่มขึ้น จึงมีภาระหน้าที่ความรับผิดชอบที่ยิ่งยวดขึ้นไปในการตรวจสอบความถูกต้องแท้จริงเกี่ยวกับระบบภายในของ the icon ว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ มีลักษณะฉ้อโกงหลอกลวงหรือไม่ กลยุทธ์ของบริษัทคืออะไร

ส่วนพรีเซนเตอร์สินค้า จะมีหน้าที่แค่โฆษณาตัวผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่รู้จัก ดังนั้นเพียงการตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์ปลอดภัย ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็พอจะมองว่าสุจริตได้แล้ว ไม่ถึงขนาดว่าต้องรู้ว่ากลยุทธของบริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์เป็นยังไง เพราะก็ไม่มีหน้าที่ชักชวนสมาชิกมาลงทุนและก็ไม่ได้รับผลประโยชน์อะไรจากค่าตัวที่แน่นอนการจะเอาผิดพรีเซ็นเตอร์ที่ถือผลิตภัณฑ์ของ the icon แล้วกล่าวหาว่าเป็นตัวการร่วมในขบวนการแชร์ลูกโซ่หรือผู้สนับสนุนจึงเห็นว่าไกลไป

กลับมาในส่วนของพระวอ การรับเงินบริจาค 1,000,000฿ ก็ยังไม่มีข้อเท็จจริงว่าเป็นส่วนแบ่งรายได้จากการที่พระวอ ชักชวนสมาชิก ข้อความที่ปรากฏไม่ว่าจะรวยเร็วก็ the icon แล่ว ส่วนการอวยยศ the icon หรือการกล่าวหาว่าคนไม่เปิดใจ ไม่ปรับมายด์เซ็ท ไม่ลงคอร์สอบรมคือดักดาน ก็ยังไม่ชัดแจ้งว่าเป็นคำชักชวน ยังไม่ถือเป็นการชักชวนโดยตรง แม้จะมีคำไม่เหมาะสม หรือไม่ใช่กิจของสงฆ์ก็เป็นคนละเรื่องกันกับคดีอาญา

ดังนั้นจึงเห็นว่าพระวอและดาราที่เป็นพรีเซ็นเตอร์เฉยๆ ยังไม่เข้าข่ายที่จะเป็นตัวการร่วมหรือผู้สนับสนุนแชร์ลูกโซ่ของ the icon นั่นเอง 
#ทนายนิด้า #theicon ”

หลังจากโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ไป เพจเฟซบุ๊ก “ออยศรีและผองเผือก” ได้เข้ามาตั้งข้อสังเกตุและคำถามกับ “ทนายนิด้า” โดยมีการตอบกลับกันดังนี้

ออยศรีและผองเผือก

"แล้วมองมั้ยว่า การที่บอสวอพูดเชียร์ขนาดนี้ เพราะทางบริษัทมีการสนับสนุนมากมาย รวมทั้งเงินสดทีละเป็นล้าน การพูดชวนเชื่อชวนเชียร์ อาจมาจากข้อแลกเปลี่ยนในลักษณะที่ไม่จำเป็นต้องตกลงกัน แต่รู้กันโดยปริยาย 
เมื่อบอส วอ พูดออกไป ก็มีผลประโยชน์ตอบรับกลับมา หรือจะเรียกกันว่าทำบุญ แต่ในอีกมุมก็ไม่ใช่เรื่องที่จะใช่กิจของสงฆ์ ที่จะพูด เพราะด้วยความที่มีผู้ติดตาม มีคนเคารพเลื่อมใสจำนวนไม่น้อย ถือเป็นพระในลักษณะอินฟลูท่านหนึ่ง ถ้าบอกว่าการเทศนาจากเขามีผลต่อคนฟัง ดังนั้นการแนะนำธุรกิจจากเขาก็มีผลต่อคนฟังเหมือนกัน ซึ่งคำแนะนำทั้งหมดไม่น่าจะบัญญัติไว้ในพระพุทธศาสนา
ถ้ามองแบบนี้ได้ไหม ในมุมของออยนะ"

ทนายนิด้า

"ต้องนั่งคุยกันยาวเลย นัดมา 😂"

ออยศรีและผองเผือก

"ขอไปศาลก่อน ยังมีอีกหลายคดี 🤣🤣🤣"

\"ทนายนิด้า\" ชี้ \"ว.วชิรเมธี\" แค่พรีเซนเตอร์ เทศน์ \"อยากรวยเร็วก็ the icon แล้ว\"