"บอย ปกรณ์" ยกมือไหว้ขอโทษผู้เสียหาย หลังให้ปากคำนานกว่า 4 ชม.

14 ตุลาคม 2567 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ภายหลังจากที่ "บอย ปกรณ์" พระเอกหนุ่มชื่อดัง ได้เข้าให้ปากคำกับตำรวจ บก.ปคบ. กรณีเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป เป็นเวลากว่า 4 ชม. โดยระหว่างที่ "บอย ปกรณ์" ได้ลงมาบริเวณด้านหน้าอาคาร เจ้าตัวได้มุ่งตรงไปที่ผู้เสียหายที่กำลังนั่งรอคิวเข้าแจ้งความ ก่อนที่จะยกมือไหว้พร้อมกล่าวคำขอโทษ 

ซึ่ง "บอย ปกรณ์" ได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า  หลังเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน ตนรู้สึกโล่งใจมากขึ้นแต่ไม่ได้สบายใจ ซึ่งตนได้ชี้แจงตามข้อเท็จจริงโดยมีเอกสารยืนยัน ยอมรับรู้สึกผิดที่มีส่วนทำให้มีผู้เดือดร้อนและเสียหายจำนวนมาก โดยในวันนี้ได้มีผู้เสียหายบางรายเข้ามาขอบคุณที่ตนออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง แต่ตนไม่สามารถรับคำขอบคุณเหล่านี้ได้ 

โดยตนใช้เวลานานเพราะได้ขึ้นไปทำหลายอย่าง ทั้งเข้าให้ปากคำ พร้อมกับได้มีการส่งหนังสือสัญญาต่างๆทั้งหนังสือสัญญาจ้าง และหนังสือสัญญาที่ตัวเองขอยกเลิกสัญญาจ้าง และมีการลงบันทึกประจำวัน พร้อมกับแจ้งความในส่วนคดีของตัวเอง

เมื่อถามถึงกรณีได้ดูบอสพอลไปออกรายการโหนกระแสหรือไม่ บอย

บอย ปกรณ์ กล่าวว่า ได้ดูแล้วเพียงเล็กน้อย แต่ไม่ทราบว่าที่พูดในรายการนั้นออกมาจากใจจริงหรือไม่ ขอไม่แสดงความคิดเห็น ให้ประชาชนตัดสิน 

และในส่วนของ 3 บอสดาราดัง ตนยังไม่ได้มีการพูดคุย แต่อยากฝากถึงดาราคนอื่นที่เคยร่วมงานหรือที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับดิไอคอน อยากให้ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง เพราะเชื่อว่าหลายท่านตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับตัวเอง ที่ทำไปโดยไม่ทราบและไม่มีเจตนา ซึ่งข้อมูลต่างๆจะเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีและผู้เสียหาย

แต่บอสต่างๆ ที่ไม่ใช่ดารา ตนอยากเรียนว่า ทำอะไรรู้อยู่แก่ใจ ที่ผ่านมาอาจเคยเจอกัน แต่หลังจากนี้จะไม่ยุ่งเกี่ยว เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะประสานนัดตนมาอีกครั้ง แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดวันนัดหมาย

ตำรวจสอบสวนกลาง ร่อนเอกสารแถลงความคืบหน้าคดี "ดิไอคอน" เผยจำนวนเหยื่อรวมกว่า 1 พันราย ยอดรวมความเสียหายพุ่งทะลุ 300 ล้านบาท 

นอกจากนี้ ตำรวตสอบสวนกลาง (บช.ก.) หน่วยงานหลักที่รับผิดลอบคดีดังกล่าว ได้เผยแพร่เอกสารประชาสัมพันธ์ความคืบหน้าของคดีดังกล่าว

ซึ่งมีเนื้อหาใจความสรุปภาพรวมของคดีว่า ตั้งแต่วันที่ 10-13 ต.ค. ทางพนักงานสอบสวน บก.ปคบ.ได้ทำการสอบปากคำผู้เสียหายเสร็จสิ้นแล้วจำนวน 635 ราย มูลค่าความเสียหายรวม 232.4 ล้านบาทเศษ

โดยเอกสารดังกล่าวยังได้ชี้แจงจำนวนยอดตัวเลขผู้เสียหาย และ ความเสียหายรวม ที่คาดเคลื่อนไปจากข้อมูลที่นำเสนอไปก่อนหน้านี้ เป็นเพราะว่าผู้เสียหายบางรายขอเดินทางกลับไปแจ้งที่ภูมิลำเนา

จึงมีการปรับปรุงตัวเลข ซึ่งขณะนี้คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนเตรียมรับมอบคำให้การจากสถานีตำรวจทั่วประเทศเพื่อมาประกอบข้อมูลของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ที่คาดว่าจะส่งมาถึงในวันเปิดทำการวันอังคารที่ 15 ตุลาคม 2567 ที่จะถึงนี้ 

    
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับยอดผู้เสียหายคดีดังกล่าวที่เข้าแจ้งความกับทางพนักงานสอบสวน บก.ปคบ. แบบเรียลไทม์นั้น ขณะนี้ตัวเลขยอดจำนวนผู้เสียหาย อยู่ที่ 1,067 คน มูลค่าความเสียหายรวม 378.2 ล้านบาท