svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

"บอสพอล" โผล่แล้ว เข้าพบ ตำรวจปคบ. ที่กองปราบปราม

"บอสพอล" โผล่แล้ว เข้าพบตำรวจ ปคบ. ที่กองปราบปราม ยังยืนยันความบริสุทธิ์ ไม่ได้ทำผิดกฎหมาย หลังถูกตำรวจเข้าตรวจค้นเครือข่าย 9 จุด เมื่อเช้าที่ผ่านมา

12 ตุลาคม 2567 เมื่อเวลา 10.30 น. ตำรวจ บก.ปคบ. นำหมายค้นศาลอาญา เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายจำนวน 9 จุด ทั้งในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร และ ปริมณฑล เพื่อค้นหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งเป็นสถานที่ในเครือบริษัท “ดิไอคอนกรุ๊ป”

ไฮไลท์สำคัญของการเข้าตรวจค้นครั้งนี้เพื่อหาพยานหลักฐานเอกสารต่างๆ โดยเฉพาะหลักฐานเกี่ยวกับ การจัดซื้อจัดขายและจำนวนการผลิตสินค้า เพื่อพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทดังกล่าวว่า ที่ผ่านมาบริษัทดังกล่าวมุ่งเน้นจำหน่ายสินค้า หรือ มุ่งเน้นการระดมทุน

ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่จะมีการแถลงรายละเอียดสรุปผลปฏิบัติการอีกครั้งในเวลา 14.00 น. วันนี้
สคบ. ตรวจสอบ ดิไอคอน (แฟ้มภาพ)

ขณะที่ความคืบหน้ากรณี "ดิไอคอน" ผู้เสียหายยังทยอยเข้าแจ้งความ โดยชั้น 2 อาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ. พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. และเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดี “ดิ ไอคอน กรุ๊ป” ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าทางคดี 

ขณะที่เดียวกันที่ ห้องประชุมชัยจินดา ซึ่งเป็นสถานที่จัดเตรียมไว้รองรับกลุ่มผู้เสียหาย ที่ต้องการเดินทางเข้ามาแจ้งความดำเนินคดีกับบริษัทดังกล่าว พบว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา มีผู้เสียหายจากหลายพื้นที่ทั่วประเทศ เดินทางเข้ายื่นเอกสารแจ้งความอย่างต่อเนื่อง

ตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เอง ก็ได้จัดเตรียมพนักงานสอบสวนไว้รองรับและคอยให้บริการตลอดทั้งวันมากถึง 70 นาย เนื่องจากเมื่อวานนี้ มีผู้เสียหายจำนวนมากเข้ามาแจ้งความ ทำให้การสอบสวนเป็นไปค่อนข้างช้า
\"บอสพอล\" โผล่แล้ว เข้าพบ ตำรวจปคบ. ที่กองปราบปราม

ล่าสุดเมื่อเวลา 13.20 น.  นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ผู้บริหารบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด พร้อมทนายความ เดินทางเข้าพบ พนักงานสอบสวน บก.ปคบ. เพื่อชี้แจง และ แสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังถูกมีกลุ่มผู้เสียหายจำนวนมากเข้าแจ้งความเอาผิดโดยกล่าวหาว่าหลอกร่วมลงทุน

นายวรัตน์พล กล่าวว่า รู้สึกเสียใจ รู้สึกไม่ดีและเศร้ามาก หลังทราบข่าวว่ามีผู้เสียหายและมีผู้เสียชีวิต วันนี้จึงเดินทางมาเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจและพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ยอมรับที่ออกมาชี้แจงในวันนี้ถือว่าช้ามาก สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งใจที่จะช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบและประสบปัญหา ส่วนกรณีที่มีผู้สูญเสียเงินและเสียชีวิต จะหาคนกลางที่สังคมให้ความเชื่อมั่นเชื่อถือเข้ามาร่วมในการแก้ไขปัญหาเยียวยาให้กับผู้เสียหายเพื่อให้เกิดความยุติธรรมสูงสุด

ส่วนดาราที่มีการเรียกว่าบอสเป็นผู้บริหารด้วยหรือไม่นั้น นายวรัตน์พล กล่าวว่า ข้อมูลในส่วนนี้ขอไปชี้แจงกับตำรวจไม่ขอเปิดเผยต่อสื่อมวลชน 

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า กรณีที่มีผู้สูญเสียเงินเกิดจากความผิดพลาดของบริษัทหรือไม่ นายวรัตน์พล กล่าวว่า ต้องพิสูจน์ในการให้ข้อมูลทั้งสองฝ่าย ทั้งจากบริษัทและผู้เสียหาย หากสังคมได้ข้อมูลทั้งสองฝ่ายก็สามารถตัดสินได้ด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตามข้อมูลทั้งหมดจะต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก่อน 

“ยืนยันในความบริสุทธิ์ เพราะสร้างบริษัทมาหกปี ไม่คิดว่าการขายของออนไลน์ในลักษณะนี้จะเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายและยังมีหลายบริษัทที่ทำในลักษณะเดียวกัน  เพราะตัวเองไม่ใช่เจ้าแรกที่คิดหรือทำธุรกิจแบบนี้ได้ เพราะเห็นรุ่นพี่ในวงการธุรกิจทำเติบโตและประสบความสำเร็จ ในธุรกิจออนไลน์หลายๆ แบรนด์” นายวรัตน์พล กล่าว