วันที่ 11 ตุลาคม เวลา 10.00 น. ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ "ทนายตั้ม" ทนายความชื่อดัง พร้อมด้วย นายแทนคุณ จิตต์อิสระ หรือ "อี้ แทนคุณ" เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปคบ. เพื่อยื่นหลักฐานแจ้งดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัท ดิไอคอน ในระดับบอส จำนวน 6 คน ในความผิดฐาน ฉ้อโกงประชาชน กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และฟอกเงิน
นายษิทรา กล่าวว่า วันนี้มาแจ้งดำเนินคดีกลุ่มบอสศิลปินดาราต่างๆ ประกอบด้วย บอสพอล บอสกันต์ บอสแซม บอสมีน บอสปีเตอร์ และบอสหมอเอก ในความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชน ,กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ,พ.ร.บ.คอมฯ และฟอกเงิน ซึ่งเป็นการแจ้งเอาผิดตัวบุคคล เพราะมีพยานหลักฐานที่ได้รับมาจากผู้เสียหายว่า ธุรกิจดังกล่าวไม่มีสินค้าอยู่จริง แต่เป็นการหลอกให้มาลงทุนสมัครคอร์สเรียนออนไลน์ คล้ายแชร์ลูกโซ่
นายษิทรา กล่าวอีกว่า อย่างกลุ่มผู้เสียหาย 4 คน ที่เคยมาร้องเรียนกับตน เล่าให้ฟังว่า หากใครมีเงิน มีฐานะ ก็จะได้เข้าพบเจอตัวบอสพอล มีการนัดทานข้าว ซึ่งในระหว่างที่ทานข้าวก็จะมีบอสต่างๆสลับหมุนเวียนเข้ามาพูดคุย ท่ามกลางบรรยากาศภายในห้อง ที่มีแต่จานชามหรูหราลายหลุยส์ จากนั้น ก็จะชักชวนร่วมลงทุน โดยไม่มีการพูดถึงตัวสินค้า พูดแค่ว่า ลงทุนแล้วเดี๋ยวรวยเอง บริษัทจัดการให้ อีกทั้งในระหว่างพูดคุยกัน ก็จะมีคนที่อ้างตัวว่าเป็นเซลล์เสื้อผ้าแบรนเนมเดินเอาเสื้อผ้าเข้ามาขายให้ถึงออฟฟิศ ทำให้เหมือนเป็นคนสำคัญบริการถึงที่ ดูน่าเชื่อถือ
สำหรับผู้เสียหายที่มาร้องเรียนกับคนทั้ง 4 คน เบื้องต้น ถูกหลอกให้นำเงินมาร่วมลงทุนไป 3 คน คนละ 2.5 แสนบาท แต่เวลาผ่านมา 1 ปี ยังไม่เคยได้รับสินค้าแต่อย่างใด ซึ่งแน่ชัดว่าเป็นการฉ้อโกงประชาชน
“ส่วนกลุ่มศิลปินดาราต่างๆ ที่เป็นระดับบอสนั้น แม้เมื่อวานจะมีแถลงการณ์ว่า ไม่ได้เป็นผู้ลงนาม หรือ ผู้ถือหุ้น เป็นแค่ผู้ช่วยการตลาด แต่คุณทำมาเป็นปีย่อมรู้ระบบการจัดการของธุรกิจดังกล่าวทุกอย่าง ดังนั้น จะมาอ้างว่าไม่รู้เรื่องไม่ได้ ยิ่งออกมาแบบนี้ยิ่งตอกย้ำเลยว่าเป็นการหลอกลวงประชาชน เป็นธุรกิจแชร์ลูกโซ่ และ อย่างที่บอสมีน เคยพูดบนเวทีว่า ขายของได้เป็นล้านชิ้น อยากถามว่าของมีจริงหรือเปล่า มีใครเคยซื้อบ้าง แต่เท่าที่ทราบของไม่มีอยู่จริง แค่หลอกขายสมาชิกให้มาร่วมลงทุน และ ที่สำคัญการที่คนเข้าไปซื้อ หรือร่วมลงทุนกับบริษัทดังกล่าวนั้น ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะพวกเขาเชื่อมั่นในตัวศิลปินดาราที่เป็นบอส เพราะคิดว่าดาราดังระดับนี้คงไม่หลอกเงินพวกเขาหรอก”
นายษิทรา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังเชื่อว่า กลุ่มบอสศิลปินดาราเหล่านี้ ได้รับผลประโยชน์จากการหลอกสมาชิกมาร่วมลงทุน ไม่น้อยกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ อย่างบอสกันต์ ที่มีนาฬิกาหรูไม่ต่ำกว่า 30 เรือน มูลค่ารวมกันไม่ต่ำกว่า 150 ล้านบาท ซึ่งลำพังการทำอาชีพพิธีกรอย่างเดียวจะมีรายได้ขนาดนี้ได้อย่างไร แต่เพราะมีส่วนแบ่งจากดิไอคอน จึงทำให้มีรถหรู บ้านหรู และ ทรัพย์สินอื่นๆ จึงอยากให้ทางกองปราบข่วยตรวจสอบเส้นทางการเงินของบรรดาบอสเหล่านี้ เพราะที่ผ่านมา มีผู้ตกเป็นเหยื่อได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก บางรายหนักจนถึงขั้นจะฆ่าตัวตาย
“อย่างไรก็ตามสำหรับเรื่องนี้ จากการที่ตนเห็นพยานหลักฐานต่างๆเชื่อว่า ในบรรดากลุ่มบอส มีผู้ติดคุกแน่ๆไม่ต่ำกว่า 4 คน อาทิ บอสพอล บอสกันต์ บอสปีเตอร์ และ บอสหมอ เพราะเรื่องนี้ตำรวจทำงานไว และ เป็นความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน และ ฟอกเงิน ต้องมีการยึดทรัพย์”
ขณะที่ นายแทนคุณ กล่าวว่า อย่างที่ทนายตั้มพูดไป ธุรกิจนี้ไม่เน้นขายของ แต่เน้นหาคนมาร่วมลงทุน และเป็นไปไม่ได้เลยที่บอสศิลปินดาราทั้งหลายจะไม่ทราบว่า มีกระบวนการนี้อยู่ในเครือข่าย ซึ่งเท่าที่ทราบมา ดาราเหล่านี้จะได้รับส่วนแบ่งไม่ต่ำกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ และ ผู้เสียหายกว่า 700 คน ที่หลงเชื่อนำเงินไปร่วมลงทุน ก็เพราะพวกเขาเชื่อมั่นในตัวศิลปินดาราเหล่านี้ ส่วนยอดเงินของบริษัทที่ได้รับจากผู้เสียหาย เชื่อว่าน่าจะได้หลายพันล้านบาทต่อปี
นอกจากนี้ ตนยังทราบอีกว่า บอสดารา บางรายมีการผ่องถ่ายเงินไปยังคนใกล้ชิด เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ ส่วน บอสหมอ ตนทราบข้อมูลว่าไม่ใช่หมอจริงๆ