2 กันยายน 2567 ตำรวจนครบาล โดยชุดสืบนครบาล บก.สส.บช.น.พร้อมนักเรียนหลักสูตรการสืบสวนคดีอาญา รุ่นที่ 115 เปิดเผยการจับกุม นายวิชาญ หรือ โก๊ะ ขอสงวนนามสกุล อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรีที่ 356/2567 ลงวันที่ 21 มิ.ย. 67 ในข้อหา "พยายามข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบสามปี และกระทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกินสิบสามปี" จับกุมบริเวณบ้าน ตำบลบางศรีเมือง อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี
โดยพฤติการณ์ในคดีคือ ย้อนกลับไปเมื่อ 25 ธ.ค.65 ขณะที่ป้าของ ด.ญ.เอ (นามสมติ) วัย 8 ขวบ ผู้เสียหาย ยืนอยู่บริเวณหน้าบ้านพักย่านบางศรีเมือง จู่ๆ ด.ญ.เอ ได้วิ่งลงมาจากบ้านในสภาพหวาดกลัว เข้ามากอดที่ขา
ป้าจึงสอบถาม ด.ญ.เอ ทราบว่า ในช่วงปิดเทอมเดือน มี.ค. 65 ขณะที่แม่ของเด็กตื่นออกไปทำงานตั้งแต่เช้าตรู่ ทิ้งเด็กให้นอนหลับอยู่ภายในห้องนอนกับพ่อเลี้ยงเพียง 2 คน ได้ถูกพ่อเลี้ยงพยายามกระทำอนาจาร แต่เด็กขัดขืนจนสามารถวิ่งหนีลงมาหาญาติคนอื่นที่อยู่ในบ้านได้ แต่ก็ยังไม่กล้าเล่าให้ใครฟัง
แต่พ่อเลี้ยงสุดหื่นรายนี้ ยังอาศัยจังหวะที่แม่ของเด็กไม่อยู่บ้าน ออกไปทำงาน พยายามล่วงละเมิดเด็กอยู่เป็นเช่นนี้ เป็นเวลานานร่วม 10 เดือน จนกระทั่งเดือน ธ.ค.65 เด็กถูกพ่อเลี้ยงล่วงละเมิดอยู่เช่นเดิมภายในบ้าน จึงตัดสินใจรวบรวมความกล้า เตะท้องและตบหน้า จนสลัดหลุด วิ่งหนีออกมาหาป้าของที่ยืนอยู่บ้าน จนนำไปสู่การแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งพนักงานสอบสวน สภ.บางศรีเมือง ได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติศาลออกหมายจับ นายวิชาญ พ่อเลี้ยงรายนี้ไว้
หลัง พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ทราบเรื่อง จึงสั่งการให้ “สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมครูพี่เลี้ยงชุดสืบนครบาล นำนักสืบรุ่นใหม่จากหลักสูตรสืบสวนคดีอาญารุ่นที่ 115 หรือ “สืบ 115” ลงพื้นที่แกะรอยจนทราบว่า พ่อเลี้ยงหื่นรายนี้ หลบหนีมาพักอาศัยในพื้นที่ อ.บางศรีเมือง จ.นนทบุรี จึงเข้าทำการจับกุม
ในชั้นจับกุม นายวิชาญ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาอ้างว่า “ตนไม่เคยมีปัญหาเรื่องการแต๊ะอั๋งเด็กผู้หญิงรายอื่นมาก่อน รวมถึงผู้เสียหายคดีนี้ด้วยด้วย พร้อมท้าให้พาเด็กไปตรวจร่างกาย ถ้าทำจริงก็จะยอมรับ ในส่วนที่เด็กบอกว่าตนไปล่วงละเมิดนั้น เป็นเพราะพ่อของเด็ก มีปัญหาโกรธเคืองกับตนมาก่อน” เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.บางศรีเมือง ดำเนินคดีต่อไป
เบื้องต้น พล.ต.ต.ธีรเดช ระบุว่า ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของคนร้าย เพราะคำพูดของเด็กนั้นบริสุทธิ์กว่า ไม่มีเหตุผลใดที่เด็กจะต้องโกหก อีกทั้งมีพยานหลักฐานอื่นๆ ยืนยันถึงการกระทำผิดของคนร้าย พฤติการณ์ในคดีนี้ นับว่าน่าหดหู่ใจอย่างยิ่ง “บ้าน” ซึ่งสมควรเป็นสถานที่ปลอดภัยที่สุดของเด็กๆ กลับกลายเป็น “นรกบนดิน”