10 สิงหาคม 2567 การจับกุมคนร้ายในครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้เร่งรัดปราบปรามอาชญากรรมที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนในสังคม
ชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. ได้เห็นประกาศข้อความขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านหนองจอก ว่าทรัพย์สินได้ถูกลักเอาไปเป็นจำนวนหลายรายการและสร้างความเสียหายให้แก่ชาวบ้านหลายราย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายวุฒิภูมิ (สงวนนามสกุล) เป็นผู้ก่อเหตุมีหมายจับ 2 หมาย และกำลังออกหมายจับอีกเพียบ
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้รายงานให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รับทราบถึงความเดือดร้อนของประชาชน จึงได้สั่งการกำชับให้ พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ ให้ดำเนินการจับกุมได้โดยเร็ว
กระทั่ง เมื่อวันที่ 9 ส.ค.67 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ,พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. สั่งการชุดปฏิบัติการจับกุมตัว นายวุฒิภูมิ หรือ หมี (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ที่อยู่แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี จว.กรุงเทพมหานคร ได้บริเวณหน้าบ้านพื้นที่ แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี จว.กรุงเทพมหานคร ตามหมายจับ ดังนี้
พฤติการณ์ อดีตผู้ต้องขังคดีร่วมกันปล้นทรัพย์, พ.ร.บ.อาวุธปืนและจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 หลังออกจากเรือนจำมา ได้ตระเวนลักทรัพย์สินชาวบ้านในหลายพื้นที่สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนเป็นจำนวนมาก โดยชุดลาดตระเวนออนไลน์ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ ได้เห็นประกาศข้อความขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านหนองจอก ว่าทรัพย์สินได้ถูกลักเอาไปเป็นจำนวนหลายรายการและสร้างความเสียหายให้แก่ชาวบ้านหลายราย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายวุฒิภูมิฯ เป็นผู้ก่อเหตุและติดตามตัวนำมาสู่การจับกุมในครั้งนี้
ตรวจสอบประวัติการกระทำความผิดพบว่า นายวุฒิภูมิหรือหมี เคยต้องโทษในคดีอาญาจำนวน 3 คดี
จากการซักถามนายวุฒิภูมิ ได้ให้การว่าก่อเหตุลักทรัพย์มาครั้งในพื้นที่มีนบุรีและใกล้เคียง แต่มักจะลักเอาทรัพย์สินที่มีราคาไม่สูงมาก เพื่อหวังว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่ติดตามตัวและไม่ให้ความสนใจ วิธีการก่อเหตุ จะสลับป้ายทะเบียนมอเตอร์ไซต์ไปมา อีกทั้งยังอำพรางตัวโดยใช้เสื้อวินมอเตอร์ไซต์และเสื้อสะท้อนแสงเพื่อลดความสนใจของตำรวจที่ตั้งจุดตรวจ จุดสกัดอยู่
อีกทั้งยังแจ้งว่าถ้าตำรวจมาสุนัขที่เลี้ยงไว้จะเห่ากรรโชกทำให้ตนไหวตัวได้ทัน โดยหลังจากลักทรัพย์สินมาจะนำไปขายเพื่อนำเงินไปใช้ในชีวิตประจำวันและซื้อยาเสพติดมาเสพ จากนั้นได้นำตัวส่ง สน.มีนบุรี ดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ กล่าวว่า พฤติการณ์ของผู้ก่อเหตุ นับว่าเป็นภัยสังคม ไม่เกรงกลัวกฎหมาย ออกตระเวนก่อเหตุลักเอาทรัพย์สินในหลายท้องที่ในเวลากลางวัน มีการวางแผน อำพรางตัวเจ้าหน้าที่ สร้างความเดือดร้อนในกับสังคมโดยรวมอย่างมาก หากไม่รีบจับกุมตัวอาจเป็นภัยสังคมที่ส่งผลให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัวในวงกว้างได้ และขอฝากเตือนประชาชน ไม่ว่าสิ่งของไม่ควรประมาทวางสิ่งของทรัพย์สินไว้นอกบ้าน ไกลสายตา เพราะจะเพิ่มโอกาสในการก่อเหตุของมิจฉาชีพได้