แก๊งเงินกู้ดอกโหด ร้อยละ30 รุมตบยายวัย 70 ปี ทวงหนี้เพื่อนบ้านไม่ได้
ยายวัย 72 ปี ร้องถูกแก๊งเงินกู้ดอกโหด ร้อยละ30 รุมทำร้ายจนเส้นเลือดในตาแตก หลังตามทวงเงินลูกหนี้อีกรายไม่ได้ แจ้งความแล้วคดีไม่คืบ
วันที่ 27 กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาคุณยายสิริเพ็ญ อายุ 72 ปี ได้เดินทางเข้าขอความช่วยเหลือกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังถูกเจ้าหนี้นอกระบบดอกร้อยละ 30 ยกพวกรุมทำร้าย หลังตามทวงเงินลูกหนี้อีกรายไม่ได้
คุณยายสิริเพ็ญ เล่าว่า ตนเองรู้จักกับแก๊งเงินกู้รายนี้ประมาณเดือน พฤษภาคม 2567 โดยเขามาหาคนกู้เงิน ซึ่งตนเองได้กู้ไปจำนวนเงิน 6,000 บาท ส่งวันละ 300 บาท จากนั้นเขาได้ให้เราไปหาคนมากู้เพิ่ม เพื่อแลกกับการที่ไม่ต้องหาคนมาค้ำเงินกู้ จากนั้นมีเพื่อนบ้านที่อยู่ห้องใกล้ๆมากู้อีก 2 เจ้าโดยทางเจ้าหนี้ได้ให้ตนเองเป็นคนรวบรวมเงินจากลูกหนี้ที่เราหามาเพิ่ม ซึ่งในตอนนั้น ได้ถามกลับไปว่าทำไมตนเองต้องเป็นผู้รับผิดชอบในการรวบรวมเงินทั้งหมด เขาให้เหตุผลว่าจะได้โอนทีเดียว
จากนั้น เมื่อตนเองไปปิดยอดเก่าไปแล้ว ก็ได้ขอกู้ใหม่เป็นเงิน 10,000 บาท ผ่อนวันละ 500 บาทรวม 24 วัน ซึ่งถูกหักค่าเปิดบุ๊ค รวมดอกแรกเข้าไป 1,000 บาท ที่ผ่านมาตนเองและลูกหนี้รายอื่นๆไม่เคยขาดส่งเงินที่จะต้องจ่ายรายวันหรือแม้จะส่งไม่ครบแต่ก็ทบเพิ่มให้ในวันถัดไปตลอด ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นก่อนเกิดเหตุวันที่ 20 กรกฎาคม 2567 ปกติตนเองจะต้องรวบรวมเงินไปส่งให้เขาจำนวน 1,900 บาท เป็นยอดของตนเอง 1,000 บาท เป็นของน้องอีก 2 คน รวม 900 บาท แต่พอดีเก็บยอดส่งได้แต่ 1,200 บาท ยังเหลืออีก 700 บาท ทำให้เขาไม่พอใจ โทรไปด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย และตอนนั้นน้องได้โอนเงินมาให้แล้ว แต่ตนเองหลับจึงไม่ได้เปิดอ่าน ตื่นมาดูก็เห็นยอดเงินโอนเข้ามา จากนั้นตนเองก็โอนไปให้เขาทันที แต่ไม่ทันเขาไปต่อว่าน้องไปแล้ว แล้วตอนนั้นคิดว่าไม่มีอะไรแล้ว
กระทั่งช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. ของวันที่ 21 ก.ค.2567 แก๊งเงินกู้ จำนวน 4 คน ได้ขับรถเก๋งฮอนด้าแจ๊สสีขาวมาจอด ตอนนั้นจำได้ว่ามีเจ้าของเงิน นายอ๊อฟคนเก็บเงิน และลูกน้องอีกสองคน เดินเข้ามาถามหาน้องคนที่จ่ายเงินช้าเมื่อวาน ซึ่งในวันนี้ไม่ได้จ่ายเงิน ทำให้เขาต้องมาตามถึงที่ โดยให้ตนเองเป็นคนพาไปตาม แต่เขาไม่อยู่ ตอนนั้นตนเองยอมรับว่าได้ต่อว่ากลุ่มแก๊งเงินกู้ไปว่า ดึกตื่นแล้วทำไมยังมาทวงอีก ไม่เกรงใจกันบ้างหรอ ตรงนี้อาจจะทำให้เขาไม่พอใจแล้วเข้ามาทำร้ายตนเอง ซึ่งจำได้ว่าคนที่ทำร้ายตัวเองคือนายอ๊อฟ และเจ้าของเงิน ส่วนอีก 2 คน ยืนคุมเชิงโดยนายอ๊อฟ ได้เดินมาแล้วตบเข้าที่ใบหน้าหลายครั้ง ตนเองพยายามเดินหนี แต่ในอ๊อฟได้เดินตามไปก่อนจะเตะตัดขาเพื่อให้ล้ม จากนั้นได้หยุมหัวตนเองแล้วตบอีก ก่อนที่ลูกสาวจะออกมาตะโกน ใส่ แก๊งเงินกู้จึงหยุด
ทั้งนี้ ที่ตนเองต้องเข้ามาร้องขอให้ทางเพจ สายไหมต้องรอดช่วยเหลือ เนื่องจากภายหลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.โชคชัย ซึ่งระยะเวลาผ่านไปหลายวันแล้ว แต่ยังไม่สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ทั้งๆที่มีหลักฐานชัดเจน ตอนนี้ตนเองกลัวเรื่องความไม่ปลอดภัยหากยังจับคนร้ายมาดำเนินคดีไม่ได้
ด้านนายเอกภพ ระบุว่า สำหรับเคสนี้ถือว่าเป็นการกระทำที่อุกอาจเนื่องจากผู้ชาย4คน เข้ามาทำร้ายคุณยายอายุ 72 ปีกลางกรุง และเท่าที่ดูหลักฐานการโอนเงินก็พบว่าทางคุณยายไม่ได้มีการค้างหรือไม่ส่งเงินรายวันแต่อย่างใด มีเพียงแต่โอนไม่ตรงเวลาเท่านั้น แต่สิ่งที่เป็นอยู่ ณ ตอนนี้คือ คุณเก็บดอกเบี้ยเขาร้อยละ 30 ต่อเดือน อีกทั้งวันที่เกิดเรื่องคนที่คุณมาทำร้ายก็ไม่ได้ค้างเงินส่งรายวันแต่อย่างใด แต่กลับให้คุณยายเป็นคนพาไปหาลูกหนี้ที่ไม่ได้จ่ายเงินรายวัน พอไม่เจอกลับมาทำร้ายคุณยายได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 21 ก.ค.2567 จนวันนี้ยังไม่สามารถจับคนร้ายรายนี้ได้จึงฝากไปยังทางสน.โชคชัย และฝากไปยังผู้การจ๋อ สืบนครบาลให้ลงมาช่วยดูในคดีนี้ด้วย
ต่อมา เวลา12.30 น. นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ได้พา คุณยายสิริเพ็ญ อายุ 72 ปี มาติดตามความคืบหน้าคดีที่ สน.โชคชัย
โดย พล.ต.ต.ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ ผบก.น.4 กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น และอยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัวผู้กระทำความผิดภายหลังได้ข้อมูลผู้ก่อเหตุ ขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบลงพื้นที่แล้ว ยืนยันจับตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้อย่างแน่นอน
ด้านคุณยายสิริเพ็ญ บอกว่า หากคนร้ายมาขอโทษ ตนก็จะไม่ให้อภัย และอยากจะขอค่ารักษาพยาบาลคืน เพราะที่โดนทำร้ายหมดค่ารักษาไปทั้งหมด 2,500 บาท
