19 เมษายน 2567 นายวราชันย์ เชื้อบ้านเกาะ ทนายความของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยถึงกรณีที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รทท.ผบ.ตร. เซ็นให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อน ว่า ตนยังไม่ได้คุยเป็นการส่วนตัว จึงยังไม่ทราบรายละเอียดมากนัก เนื่องจากยังอยู่ต่างจังหวัด แต่ทางทีมได้มีการพูดคุยบ้างแล้ว ก่อนที่ในสัปดาห์หน้าทีมทนายความจะเรียกประชุมหารือการทำงานหลังจากนี้
สำหรับหนังสือคำสั่งดังกล่าว ขณะนี้หนังสือยังมาไม่ถึง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ คาดว่าอยู่ระหว่างดำเนินการ เท่ากับยังไม่มีการแจ้งให้ตัวผู้ถูกออกคำสั่งทราบ และขณะนี้ทีมทนายความยังไม่เห็นรายละเอียดในคำสั่งว่าเป็นอย่างไร หากได้รับหนังสือแล้ว เชื่อว่าจะมีการยื่นอุทธรณ์ตามกระบวนการกฎหมายแน่นอน แต่ต้องดูว่าในหนังสือระบุตามสิทธิ์อย่างไร ให้ยื่นอุทรณ์ที่ไหน เมื่อไหร่
ในส่วนของการยื่นศาลปกครองนั้น อาจจะยังไม่ถึงขั้นตอนนั้น เนื่องจากคำสั่งตัวนี้จะต้องมีการอุทธรณ์ไปตามขั้นตอนก่อน เพราะการร้องศาลปกครองตามหลักกฎหมาย หากจะฟ้องต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข เช่นกฎหมายกำหนดว่า ต้องร้องทุกข์ก่อน เป็นต้น
เมื่อถามว่าหนักใจหรือไม่ นายวราชันย์ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องแยกเป็น 2 ส่วน คดีที่มีการดำเนินคดีก็ส่วนหนึ่ง คำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนเป็นเรื่องทางปกครองก็ส่วนหนึ่ง ว่ากันไปตามกระบวนการ ถามว่าหนักใจหรือไม่เป็นคนละเรื่องกัน เรื่องทางคดีจะมีรายละเอียดอื่นๆที่ซับซ้อน ย้ำยังไม่ถึงขั้นที่จะต้องมาพิจารณาในส่วนนั้น แต่ว่าอย่างที่เคยแถลงไว้ว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มีความมั่นใจในส่วนของท่านว่า กระบวนการที่เกิดขึ้นไม่ได้รับความเป็นธรรม
ทำให้หลังจากนี้ ทีมทนายความจะต้องตรวจสอบคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่
"ยังไม่อยากลงรายละเอียดมาก แต่ส่วนตัวคิดว่าอาจจะไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ.ตำรวจฉบับใหม่ ซึ่งหากไม่เป็นไปตามกฎหมายจริง การออกคำสั่งที่ไม่ชอบทาง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ก็มีสิทธิ์ร้องทุกข์ และผู้ออกคำสั่งจะต้องเป็นคนรับผิดชอบ อาจเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา 157 ได้ แต่ทั้งหมดนี้ต้องดูรายละเอียดอีกครั้ง" นายวราชันย์ กล่าว