22 กันยายน 2566 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) เผยการสืบสวนสอบสวนคดีนายส่องศักดิ์ ส่งแสง หรือ “เอ็ม” ก่อเหตุฆ่าลูกชายและลูกสาว 4 คน ก่อนร่วมกับ น.ส.เจษฏา(ภรรยา) นำศพไปฝั่งโบกปูน ภายในบ้านพัก ที่ จ.กำแพงเพชร ว่า แม้คำให้การของนายเอ็ม ที่อาจจะสับสนและล่อหลอกตำรวจ ไม่ได้สร้างปัญหากับชุดสอบสวนเพราะผู้ต้องหาจะพูดอะไรก็พูดได้ เพราะการทำงานของตำรวจ คือ หาพยาน หลักฐาน มายืนยันข้อกล่าวหาคือ ฆ่าลูก ทำร้ายเด็กซึ่งเป็นลูกของตนเอง
ผบช.น.ย้ำ หลักฐานที่จะมัดตัว คือ หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ หากไม่ตรงกับคำให้การก็แปลว่านายเอ็ม โกหก ไม่ได้หมายความว่านายเอ็มจะหลุดคดี เนื่องจาก พยาน หลักฐานแวดล้อมอื่นๆ มัดตัวไว้ทั้งหมด ทั้งระยะเวลาเกิดเหตุ พฤติการณ์ ซึ่งเชื่อมโยงเป็นจิ๊กซอว์เดียวกันกับศพที่พบและผลตรวจชันสูตร
ขณะนี้รอเพียงผลดีเอ็นเอยืนยันความเชื่อมโยงความสัมพันธ์ทางสายเลือด “พ่อ-แม่-ลูก” เท่านั้น
แหล่งข่าวระดับสูงจากชุดคลี่คลายคดี ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า นายเอ็มยืนยันว่า ฆ่าลูก 3 คน ส่วนอีก 2 คนอ้างว่า ผู้หญิง(ภรรยา)ฆ่าซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์กันต่อไป
ตำรวจยังพบหลักฐานและความเชื่อมโยงที่น่าสนใจ คือ ลูกคนหนึ่งของนายเอ็ม ที่เจ้าตัวเคยถ่ายรูปไปรับบริจาค อ้างว่าพิการ “ปากแหว่ง-เพดานโหว่” นั้น แท้ที่จริงแล้ว ไม่ได้เป็นความพิการมาตั้งแต่กำเนิด แต่เป็นเพราะถูกทำร้ายจนเพดานโหว่และกลายเป็นช่องทางให้นายเอ็มกับภรรยาถ่ายภาพลูกคนนี้ไปเปิดรับบริจาค
หลักฐานที่พบนี้ ตำรวจไปสอบปากคำ “อดีตคนเลี้ยงเด็ก” และญาติที่เคยดูแลเด็ก ได้รับคำยืนยันตรงกันว่าเด็กไม่ได้พิการตั้งแต่เกิด แต่เพราะถูกทำร้ายจึงทำให้เกิดความพิการ
จากข้อมูลที่ได้ เมื่อนำมาประมวลร่วมกับพฤติการณ์ ลักษณะนิสัยของนายเอ็ม ที่ไม่ยอมทำงาน ทำร้ายเด็ก ทำร้ายภรรยาแต่ภรรยาก็ไม่ยอมเลิกรา จึงมีความเป็นไปได้ว่าอาจทำร้ายเด็กให้บาดเจ็บ และพิการเพื่อนำเด็กไปหากิน ด้วยการเป็นขอทานหรือรับบริจาค ซึ่งถ้าข้อสันนิษฐานนี้เป็นจริง ก็จะตอบคำถามได้ว่าเหตุใด นายเอ็ม จึงต้องมีลูกมากๆ ทั้งๆ ที่อ้างว่าไม่ชอบเสียงร้องของเด็ก รำคาญเสียงเด็ก
ล่าสุด ทีมสืบสวนกับทีมสอบสวน กำลังหารือกันอย่างเคร่งเครียด โดยมี ผบช.น.ร่วมวิเคราะห์เพื่อชั่งน้ำหนัก พยาน หลักฐานและอาจมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติม “ข้อหาค้ามนุษย์” กับนายเอ็มและภรรยา หากหลักฐานทั้งหมดชี้ว่า นายเอ็มทำร้ายลูกเพื่อให้พิการ หรือบาดเจ็บแล้วนำไปขอทานหรือเปิดรับบริจาค เมื่อพลั้งมือฆ่า หรือทรมานจนตาย (ทรมานเพื่อผลในการนำไปขอทาน) ก็นำศพไปทิ้ง แล้วมีลูกใหม่
เบื้องต้น ตำรวจเชื่อว่า นายเอ็มไม่ใช่คนขี้โมโหจริง ไม่ได้ขี้หงุดหงิด หรือมีสภาพจิตประสาทแตกต่างจากคนปกติทั่วไป จึงมีความเป็นไปได้ ที่นายเอ็มอาจมีพฤติการณ์ค้ามนุษย์โดยมีภรรยาบางคนร่วมขบวนการ