21 กันยายน 2566 คดีสะเทือนขวัญ "เอ็ม" พ่อโหดทำร้ายลูกจนเสียชีวิตในกรุงเทพฯ ก่อนร่วมกับเมีย ที่เป็นแม่แท้ๆของเด็กหญิงวัย 2 ขวบ นำร่างไปฝังโบกปูนอำพรางคดี ในบ้านพักที่จ.กำแพงเพชร ที่มีจุดเริ่มต้นจาก เด็กถูกพ่อทำร้าย ออกมาขอความช่วยเหลือคนในอะพาร์ตเมนต์ ถูกขุดคุ้ยสืบสวนจนพบว่า มีเหยื่อพ่อโหดถึง 5 ราย
ช่วงบ่ายวันที่ 10 ก.ย.66 เวลาประมาณ 15.45 น. ทีมงานสมาชิกสภากรุงเทพฯ เขตบางเขน "สก.นริสสร แสงแก้ว" ประสาน "กัน จอมพลัง" นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ ว่ามีเด็กถูกพ่อแท้ๆทำร้าย เหตุเกิดท้ายซอยพหลโยธิน 48 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ
จากนั้น กัน จอมพลัง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางเขน และ เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้เข้าช่วยเหลือ เด็กหญิง 2 คนพี่น้อง อายุ 12 ขวบ และ 4 ขวบ ซึ่งถูกพ่อกักขังและทำร้าย พบร่องรอยถูกทำร้ายตามร่างกาย ขณะน้องคนเล็กตาบอด
สิ่งที่น่าตกใจมากไปกว่านั้น น้องวิ (นามสมมติ) อายุ 12 ปี เปิดปากบอกวิบากกรรมของพี่น้องในครอบครัวที่คนได้ยินถึงกับจุกอกว่า เธอเป็นลูกคนและแม่กับ น้องสาว 4 ขวบที่ตาบอด ส่วนน้องที่ตาบอด เกิดจากพ่อใช้น้ำฉีดเข้าที่ดวงตา และมีน้องสาว 2 ขวบ ถูกพ่อกับแม่ปลิดชีพไปแล้วเมื่อไม่นานนี้
คำบอกเล่าของ น้องวิ นำไปสู่การขยายผลของตำรวจ เบื้องต้นทราบว่าพ่อของเด็กๆคือ นายส่องศักดิ์ ส่งแสง อายุ 46 ปี มีภูมิลำเนาอ.ห้วยยอด จ.ตรัง แม่เด็กชื่อ น.ส.สุนัน นาหัวนิล หรือ จุ๋ม อายุ 41 ปี ภูมิลำเนา อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร
กระทั่งเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2566 เวลา 10.30 น. ตำรวจควบคุมตัว นายส่องศักดิ์ และ น.ส.สุนัน ได้ที่ลานจอดรถ ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต อำเภอธัญบุรี ปทุมธานี
เมื่อนำมาสอบปากคำที่ กก.สส. บก.น.2 ทั้งสองรับสารภาพว่า ได้ลงมือทำร้าย น้อง ด.ญ.โมเดล วัย 2 ขวบ จนเสียชีวิตเมื่อเดือนพฤษภาคม 2566 แล้วเอาร่างไปฝังโบกปูนอำพรางคดีที่บ้านในพื้นที่ อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร ซึ่งเมื่อไปตรวจสอบพบร่างถูกฝังไว้จริง
ตำรวจ จับกุม นายส่องศักดิ์ และ น.ส.สุนัน แจ้งข้อกล่าวหา 3 ข้อหา ได้แก่
ต่อมาได้เชิญตัว น.ส.เจษฎา มีเพียร ภรรยาอีกคนของนายส่องศักดิ์ หรือ เอ็ม ซึ่งเป็นมารดาของ ด.ญ.วิ ปฐมบทเปิดเหตุคดีสะเทือนขวัญ มาสอบปากคำเพิ่มเติม ที่ สน.บางเขน
กระทั่ง น.ส.เจษฎา ยอมเปิดปากบอกว่า มีลูกกับนายเอ็ม หรือ ส่องศักดิ์ 5 คน และลูกชายของตนเองอีก 4 คน เสียชีวิตตั้งแต่เล็ก เนื่องจากถูกนายส่องศักดิ์ ทำร้าย และได้ร่วมกันกับเธอนำร่างไปทิ้งตามจุดต่างๆในกรุงเทพ เมื่อปี 2556, 2557, 2559 และ 2561
น.ส.เจษฎา รับสารภาพว่า วันที่ 10 ต.ค. 2556 นำศพ ด.ช.ศักดิ์ (นามสมมติ) อายุ 10 เดือนเศษ ไปทิ้งที่ ริมถนนนิคมรถไฟสาย 1 แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม.ใกล้เคียงสวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) พื้นที่สน.บางซื่้อ
วันที่ 12 พ.ย. 57 นำศพ ด.ช.ธี (นามสมมติ) อายุ 1 เดือนเศษ ไปทิ้งที่ริมถนนนิคมรถไฟสาย 1 แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม.ใกล้เคียงสวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) พื้นที่สน.บางซื่้อ
ช่วงปี พ.ศ. 2559 และ 2561 นำศพ ด.ช.ธนา (นามสมมติ) และ ด.ช.นัฐ (นามสมมติ) ไปทิ้งที่บริเวณที่รกร้าง บริเวณศาลตายาย ข้างถนนพหลโยธินขาเข้า ใกล้ปั้มเอสโซ พื้นที่ สน.สายไหม
เมื่อช่วงเย็นวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา ตำรวจ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้ขุดค้นบริเวณที่รกร้าง ใกล้ปั้มเอสโซ ตามคำให้การ ซึ่งมีสภาพเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม กระทั่งพบกระดูกที่คาดว่าเป็นของมนุษย์ จำนวน 2 ชิ้น นำพิสูจน์ดีเอ็นเอว่าจะเป็นลูกของ นายส่องศักดิ์ และน.ส.เจษฎา หรือไม่
ส่วนการดำเนินคดี น.ส.เจษฎา มีเพียร ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูล สอบปากคำและหาข้อมูลเพิ่มเติม รวมทั้งรอผลทางนิติวิทยาศาสตร์
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.20 น. วันนี้ (21 ก.ย.) พนักงานสอบสวน สน.บางเขน คุมตัว นายส่องศักดิ์ และ นางสุนัน แม่ของน้องโมเดล ไปฝากขังที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก
พฤติการณ์แห่งคดี
จากการสอบปากคำ นายส่องศักดิ์ รับสารภาพว่า ได้ลงมือทำร้ายร่างกายจนทำให้เด็กถึงความตาย 3 ราย คือ
ในส่วนอีก 2 ราย ให้การภาคเสธ ว่าไม่ได้ลงมือทำร้าย ประกอบด้วย
ขณะที่ น.ส.เจษฎา มีเพียร ยอมรับสารภาพว่า ลงมือใช้ผ้าอุดปาก เด็กชายนัฐ แล้วนำไปขังไว้ในตู้วางทีวี ก่อนป่วยตายในเวลาต่อมา แต่ที่ทำไปเพราะเป็นการปกป้องมิให้ นายส่องศักดิ์ ลงมือทำร้ายด้วยตัวเอง
พฤติกรรมของ "เอ็ม ส่องศักดิ์" ทารุณกรรมลูก
จากการสอบสวนอย่างละเอียดของตำรวจพบว่า นายส่องศักดิ์ จะลงมือทำร้ายลูกๆอย่างต่อเนื่อง หลายครั้งข่มชู่และทำร้ายภรรยาด้วย โดยจะมีการตีด้วยไม้แขวนเสื้อตี จับหัวกดน้ำ ใช้มีดหรือไขควงรนไฟ แล้วเอามาจี้ รวมั้งใช้ไฟแช็ครนตามร่างกาย
สาเหตุของการทำร้ายมักจะมาจากความหึงหวง หรือขัดใจ ไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ส่วนการทำร้ายเด็กๆเกิดจากกว่า "ทนเสียงร้องเด็กไม่ได้" เมื่อได้ยินแล้วเกิดอารมณ์โมโห ฉุนเฉียว
นอกจากนี้ นายส่องศักดิ์ มักตัดพ้อชีวิตของตนเองเสมอว่า ต้องประสบเจอกับชะตากรรมลำบาก หางานทำไม่ได้ เพราะมีประวัติและมีอาการป่วยทางจิต บางครั้งลูกร้องเพราะความหิว แต่ตนก็ไม่มีเงินไปซื้อนม ซื้ออาหาร เมื่อได้ยินเสียงร้อง ยิ่งทำให้เกลียดเสียงร้องของเด็กเป็นอย่างมาก
จากการสอบสวนยังทำให้ทราบว่า น.ส.เจษฎา ทนอยู่กับ นายส่องศักดิ์ เพราะว่าเป็น "รักแรก" และไม่เคยมองถึงชายอื่น ตัวเลือกอื่นๆ จำใจทนอยู่จนถึงปัจจุบัน รวมทั้งยอมให้ไปมี น.ส.สุนัน เป็นภรรยาคนใหม่อีกด้วย
เปิดความสัมพันธ์ "ส่องศักดิ์" 4 ครอบครัว
“ส่องศักดิ์ ส่งแสง” หรือ เอ็ม มีภรรยาทั้งสิ้น 4 คน มีลูกชายและลูกสาวรวม 10 คน
ภรรยาคนที่ 1 น.ส.ศิรินันท์ (สงวนนามสกุล) ภูมิลำเนา อ.วังวิเศษ จ.ตรัง มีบุตรด้วยกัน 1 คน
ภรรยาคนที่ 2 น.ส.เจษฎา มีเพียร ภูมิลำเนา อ.ละแม จ.ชุมพร มีบุตรด้วยกัน 5 คน
ภรรยาคนที่ 3 น.ส.ศรินญา (สงวนนามสกุล) ภูมิลำเนา จ.ตรัง มีบุตรด้วยกัน 1 คน
ภรรยาคนที่ 4 น.ส.สุนัน นาหัวนิล หรือ จุ๋ม ภูมิลำเนา อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร มีบุตรด้วยกัน 3 คน