21 กันยายน 2566 จากผลงานของทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ มาอย่างต่อเนื่องทั้งในส่วนของทุนจีนสีเทา แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ไปจนถึงปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญ ที่ทำให้นักท่องเที่ยวได้เห็นประเทศไทยเพียงด้านเดียว มายาวนาน
รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงของจีน ได้ประกาศมอบรางวัลเหรียญสดุดี The Gold Great Wall Commemorative Award (เหรียญทองกำแพงเมืองจีนสดุดีตำรวจชั้นสูงสุด) หรือรางวัลความร่วมมืออันดียิ่งในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติให้แก่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นับเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลจีนมอบรางวัลนี้ให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
อีกทั้งยังได้แสวงหาความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติกับนานาประเทศ โดยมีมากกว่า 46 ประเทศสนใจเข้าร่วม ประชุมความร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ที่เมืองเหลียนหยุนก่าง มณฑลเจียงซู สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมี นายหวังเฉี่ยว หง รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงคำมั่นคงของจีนเป็นประธาน
บรรยากาศในการประชุมได้พูดคุยแนวทางการดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว โดยระบุว่า ขณะนี้รัฐบาลไทยเปิดกว้างให้นักท่องเที่ยวจีน เข้าไปท่องเที่ยวได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า และจะใช้เทคโนโลยี ในการติดตามดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะตามหัวเมืองสำคัญในโครงการสมาร์ทเซฟตี้โซน ซึ่งปัจจุบันได้นำร่องในหลายเมืองแล้ว
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า รางวัลนี้เป็นรางวัลแรกที่รัฐบาลจีนมอบให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เนื่องจากความร่วมมือสูงสุด จึงได้รับรางวัลเกียรติยศสูงสุด เป็นรางวัลที่ขอบคุณประเทศไทยที่ได้ให้ความร่วมมือในการปราบปราม อาชญากรรมทางเทคโนโลยี เช่น คอลเซ็นเตอร์ หลอกให้ลงทุน (Hybrid Scam) ที่อยู่ตามแนวชายแดนในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งได้มีการปราบปรามร่วมกันมาเป็นระยะเวลาหลายปี รางวัลนี้จะนำไปมอบให้กับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติต่อไป
ขณะที่รัฐมนตรช่วยว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีน ระบุ ไทยยังคงเป็นประเทศปลายทางที่คนจีน อยากเดินทางไปท่องเที่ยว จากที่ผ่านมากกว่า 12,000,000 คน แต่หลังจากสถานการณ์โควิดทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนลดลง แต่เชื่อมั่นว่ามาตรการที่จะทำร่วมกันจากนี้ จะทำให้คนจีนมีความมั่นใจและเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศไทยมากกว่า 10,000,000 คนอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ ความร่วมมือดังกล่าว น่าจะเริ่มต้นในช่วงเดือนตุลาคมนี้ เนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดยาวของชาวจีน โดยจังหวัดที่ชาวจีนอยากแวะไปเยือนอย่างทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกและภาคใต้ โดยเฉพาะกระบี่ ภูเก็ต และพังงา
นอกจากนี้ ทางการจีนเตรียมส่งหน่วยปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ไปทำงานร่วมกับประเทศไทย ในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังจากพบเบาะแสว่ามีกลุ่มคนจีนไปตั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตามตะเข็บชายแดน ระหว่างประเทศไทยกับลาว เมียนมาร์ และกัมพูชา พร้อมทั้งระบุว่า ที่ผ่านมา มีการจับกุมผู้ต้องหา ชาวจีนนับ 100 คน หลังส่งทีมงานเข้าไปกวาดล้างรอบแรก ในพื้นที่ของชนกลุ่มน้อย บริเวณประเทศเมียนมา