25 มิถุนายน 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน ที่ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก จากการที่มีเจ้าของบ้านรายหนึ่ง นำซากรถยนต์มาจอดขวางถนนหน้าบ้านที่ใช้ส่วนรวม โดยอ้างเป็นกรรมสิทธิ์ของตน ถ้าเดือดร้อนก็ไปฟ้องศาลเอา
หลังรับแจ้ง จึงได้ลงพื้นที่ ซอยร่มเกล้า 24 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตมีนบุรี กทม. บริเวณตึกแถวข้างทาง ซึ่งเป็นตึกทาวน์โฮม 4 ชั้น เรียงกันริมถนน พบมีบ้านหลังที่เกิดเหตุ นำซากรถและก้อนหิน สร้างคล้ายเป็นภูเขาลูกเล็ก ๆ กั้นถนนหน้าบ้าน ซึ่งเป็นถนนส่วนรวมของคนในตึกแถว
สอบถามคนในหมู่บ้าน ระบุว่า ตึกแถวแห่งนี้ไม่มีคนอยู่อาศัย แต่มีคนคอยมาดูแล อาทิตย์หนึ่งจะมีมาดูแลสักครั้งหนึ่ง ผู้สื่อข่าวจึงไม่พบเจ้าของซากรถยนต์คันดังกล่าว แต่ได้สัมภาษณ์ชาวบ้านที่อยู่ข้าง ๆ มาแทน
นายพรเทพ ฉิ่นเจริญ อายุ 53 ปี เล่าว่า ชาวบ้านละแวกนี้ ได้รับความเดือดร้อน เรื่องการสัญจรไปมา และใช้ชีวิตอยู่กับถนนเส้นนี้มานาน หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ ทำให้การใช้ชีวิตประจำวันเปลี่ยนไป จากการใช้ถนนที่สมควรต้องใช้ กลายเป็นต้องใช้ฟุตปาธแทน เป็นแบบนี้มาประมาณเดือน 2 แล้ว
ช่วงก่อนหน้านี้ พวกชาววบ้านยังทนกันได้ เนื่องจากเป็นแค่ลูกระนาดเล็ก ๆ แต่ระยะต่อมาเริ่มหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นซากรถยนต์ เจ้าของตึกทำแบบนี้ ทำให้พวกตนขับรถผ่านไม่ได้เลย ชาวบ้านจึงมาร้องเรียนกับสื่อ เพื่อให้หาทางช่วยเหลือ
ก่อนหน้านี้ ชาวบ้านเคยแจ้งเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ และได้รับคำตอบว่า ให้มาไกล่เกลี่ยกันเอง หลังจากนั้นทางชาวบ้าน ได้มาคุยกับเจ้าของซากรถยนต์คันนี้ แต่เจ้าของซากรถยนต์ กลับพูดให้ชาวบ้านไปฟ้องศาลเอาเอง เพราะเป็นกรรมสิทธิ์ของตน ซึ่งศึกษามานานนับ 7 - 8 ปีแล้ว และพูดว่า ที่ทำไปไม่ผิดเป็นพื้นที่ของตน ชาวบ้านจึงร้องเรียนผู้สื่อข่าว เพราะชาวบ้านศึกษากฎหมายมาน้อย และไม่เข้าใจทางกฎหมาย โดยหากคำกล่าวอ้างของเจ้าของซากรถยนต์เป็นจริง การใช้ชีวิตประจำวันของพวกชาวบ้าน ต้องได้รับความเดือดร้อนกันถ้วนหน้า
นายพรเทพ กล่าวว่า เจ้าของซากรถยนต์อ้างว่า การที่ชาวบ้านขับรถผ่านไปผ่านมา ทำให้บ้านของตนทรุด จึงเอาซากรถยนต์มากั้นไว้ เพื่อไม่ให้รถสัญจรผ่านไปผ่านมา และอ้างสิทธิ์ถือครองในที่ดิน แต่ความคิดของตน บ้านบริเวณนี้เป็นตึกแถว ถ้าจะทรุดก็ทรุดทั้งแถบ ไม่ใช่แค่หลังเดียว
และความเดือดร้อนอีกอย่าง คือตอนฝนตกน้ำท่วม ทำให้น้ำไม่ระบาย กักขังอยู่หน้าบ้านตน เพราะมีซากรถยนต์และกองหิน ขวางทางระบายน้ำอยู่ ซึ่งอยากวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาดูแล เพราะชาวบ้านเดือดร้อนกันมาก ในการใช้ชีวิตประจำวัน