4 พฤษภาคม 2566 เมื่อเวลา 16.00 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อมคณะชุดคลี่คลายคดี "แอม ไซยาไนด์" พาตัว พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ รองอ๊อฟ อดีตสามีแอม มาที่ทัณฑสถานหญิงกลาง เพื่อเจอกับอดีตภรรยา ก่อนที่พนักงานสอบสวนจะสอบปากคำแอมเพิ่มเติม ทั้งเรื่องการปล่อยเงินกู้ การรับจำนำรถ รวมไปถึงการที่รองอ๊อฟ ขับรถไปรับแอมหลังนายแด้ เสียชีวิต และกรณีที่แอมนำสร้อยทองไปจำนำตามโรงรับจำนำต่าง ๆ เป็นต้น
ต่อมาเวลา 17.30 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า จากการเข้าไปสอบปากคำแอม พร้อมกับอดีตสามีนั้น แอมยังไม่ยอมเปิดปากให้ข้อมูลอะไร โดยเฉพาะประเด็นวางแผนฆ่าคน โดยแอมร้องขอเจอญาติเป็นผู้หญิง 1 คน เพียงคนเดียวเท่านั้น เป็นบุคคลใกล้ชิด และเป็นคนที่แอมอ้างว่าไว้วางใจ รวมถึงเป็นคนที่ตำรวจไม่เคยเรียกมาสอบปากคำก่อนหน้านี้ อยู่ในพื้นที่ภาค 7 (ราชบุรี,นครปฐม) โดยแอมบอกว่า หากเจอญาติคนนี้แล้วจะยอมพูดความทั้งหมด และจะยอมรับในส่วนที่ตัวเองกระทำความผิด
ทั้งนี้ ตลอดการสอบปากคำอดีตสามีก็คอยช่วยพูดคุยและพยายามเกลี้ยกล่อมให้แอม ยอมรับสารภาพ แต่แอมได้แต่ "ร้องไห้" เนื่องจากสำนึกผิดที่ทำให้ลูกและสามีเดือดร้อน ต้องใช้ชีวิตในสังคมลำบาก ประกอบกับอดีตสามียังต้องถูกออกจากราชการด้วย ขณะที่ในส่วนของอดีตสามี ก็ร้องไห้เช่นกัน แต่เท่าที่สังเกตไม่ได้มีความเครียด และตั้งใจจะพยายามให้แอม พูดความจริง มีแต่แอมที่มีความเครียดเมื่อพูดถึงเรื่องลูก
ระหว่างการการสอบปากคำ ทางตำรวจพยายามที่จะบอกแอมด้วยว่า คดีนี้มีความเชื่อมโยงถึงแอม มากถึง 15 คดี จึงอยากให้โอกาสให้แอมยอมรับสารภาพว่า คดีไหนที่กระทำความผิดและคดีไหนที่ไม่ได้กระทำผิด แต่แอมก็ยังไม่ให้ข้อมูลอะไรทั้งนั้น และไม่ได้ร้องขอพูดคุยกับทนายความแต่อย่างใด
เบื้องต้น ได้ประสานไปยังอธิบดีกรมราชทัณฑ์แล้วว่า จะให้ญาติที่แอมไว้ใจเข้ามาพบกับแอมในวันพรุ่งนี้ (5 พฤษภาคม) เวลา 10.00 น. จากนั้นวันที่ 6 พฤษภาคม คณะทำงานจะเข้ามาพบแอมในเรือนจำอีกครั้ง
ส่วนประเด็นการพบสารต้านพิษนั้น รอง ผบ.ตร. เชื่อว่าแอมน่าจะเตรียมความพร้อมมาก่อน เนื่องจากการผสมไซยาไนด์ อาจจะมีการสูดดมเข้าร่างกาย จึงจำเป็นที่จะต้องเตรียมสารต้านพิษไว้ ซึ่งตามข้อมูลหากจำเป็นต้องใช้สารต้านพิษนี้ จะต้องฉีดเข้าเส้นเลือดดำ โดยต้องเป็นคนที่มีความรู้และเชี่ยวชาญเรื่องนี้โดยเฉพาะ และจะต้องเป็นพยาบาล
ซึ่งคนใกล้ชิด ที่เป็นพยาบาลมีเพียงคนเดียว คือ "พี่สาวต่างแม่" แต่ตอนนี้ยังไม่ได้กล่าวหาใคร เพราะอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน ส่วนประเด็นแคปซูลยาสมุนไพรที่ตรวจยึดได้ที่บ้านพี่สาวนั้น พบว่ามีไซยาไนด์ปนเปื้อนทุกแคปซูล จึงเชื่อได้ว่าแอมตั้งใจพยายามฆ่า
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจาก "รองอ๊อฟ" ได้ประกันตัวแล้ว ต้องควบคุมอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ รอง ผบ.ตร. ระบุว่า เจ้าหน้าที่มีขั้นตอนการควบคุมอยู่แล้ว จึงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ส่วนการค้นบ้านรองอ๊อฟ พบภาชนะมีห่อที่เหมือนกับหลักฐานที่พบบนรถของแอม ซึ่งขณะนี้ได้ส่งไปตรวจสอบที่กองพิสูจน์หลักฐานแล้ว โดยยังรอผลอยู่ว่าเป็นสารเดียวกันหรือไม่
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังกล่าวถึงการตรวจสอบโรงงานแหล่งที่มาของไซยาไนด์แล้วพบความเชื่อมโยง ว่า มีนักแสดงสาวท่านหนึ่งได้สั่งซื้อไซยาไนด์ลอตเดียวกันกับแอม หลังเกิดเหตุการณ์เสียชีวิตของก้อย โดยวันจันทร์ที่ 8 พฤษภาคมนี้ ทางเจ้าหน้าที่จะเรียกนักแสดงสาวคนนี้มาสอบปากคำ เพื่อชี้แจงเรื่องวัตถุประสงค์การสั่งซื้อ
โดยเบื้องต้นพบว่ามีการสั่งซื้อเพียง 1-2 หลอดเท่านั้น และล่าสุดทางตำรวจได้ติดต่อไปยังผู้จัดการของนักแสดงสาวคนนี้แล้ว แต่ยังไม่ได้ข้อมูลใด ๆ ซึ่งนอกจากจะเรียกนักแสดงสาวมาให้ ปากคำแล้ว ตำรวจจะเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องอีก 20 คน มาสอบถามเรื่องการสั่งซื้อไซยาไนด์มาสอบเพิ่มเติมด้วย