svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

จับตากองปราบ ขยายผล"แอม ไซยาไนด์" เรียก“ส้ม”พี่สาวท้าวแชร์ให้ข้อมูลมัดตัว

กองปราบฯเร่งขยายผลคดี "แอม ไซยาไนด์" เรียกสอบเพิ่ม“ส้ม”พี่สาวก้อย และลูกแชร์อีกรายพร้อมสอบสามีผู้เสียชีวิตคาดรายใหม่ พื้นที่จ.มุกดาหาร หลังได้ข้อมูลส่งยาแคบซูน อ้างยาบำรุงให้กิน ก่อนเสียชีวิต ระบุมีข้อมูลแหล่งที่มา"ไซยาไนด์"แล้ว แย้มรอฟังข่าวดีเร็วๆนี้

27 เมษายน 2566 ความคืบหน้าคดี"แอม ไซยาไนด์" ผู้ต้องหาวางยา"ไซยาไนด์" ก่อเหตุฆาตกรรมต่อเนื่อง คาดว่ามีผู้เสียชีวิตมากกว่า 10 ราย ซึ่งญาติเหยื่อทยอยออกมาให้ข้อมูลกับตำรวจตรวกันว่า ทุกคนเสียชีวิตหลังจากได้พบกับ นางสรารัตน์ รังสิวุฒาพรณ์ หรือ "แอม" เป็นคนสุดท้าย กระทั่งตำรวจออกหมายจับ ส่งฝากขังต่อศาลไปเมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา แต่ยังพบเหยื่อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่า"แอม"เคยรักษาอาการทางจิตเวช เมื่อ 5 ปีก่อน แต่ขาดยาไป 2 ปี ตามข่าวที่เสนอไปก่อนหน้านี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

จับตากองปราบ ขยายผล\"แอม ไซยาไนด์\" เรียก“ส้ม”พี่สาวท้าวแชร์ให้ข้อมูลมัดตัว

ล่าสุด พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. เปิดเผยความคืบหน้ากรณีของ น.ส.ก้อย ที่เสียชีวิตปริศนา โดยมี น.ส.แอม ท้าวแชร์เป็นผู้ต้องหาในคดีด้วย ว่า สำหรับคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ก้อย ที่กองปราบรับผิดชอบว่า ยืนยันว่าคดีนี้มีพยานหลักฐาน ทั้ง ประจักษ์พยาน พยานวัตถุ และนิติวิทยาศาสตร์ หนักแน่นเพียงพอที่จะเอาผิดผู้ต้องหาได้ 

“เบื้องต้นยังแจ้งข้อหาเพียงข้อหาเดียว ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน แต่หากพบว่า การฆ่าดังกล่าวมีวัตถุประสงค์อื่นแอบแฝง ไม่ว่าจะประสงค์ต่อทรัพย์ หรือปกปิดความผิดอื่น ก็จะถือว่าเป็นความผิดในอีกกระทงหนึ่ง”

พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป.

ส่วนเรื่องการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องวันนี้ได้เชิญ น.ส.นิภาวรรณ หรือ ส้ม ซึ่งเป็นพี่สาวของ "ก้อย ท้าวแชร์" ในฐานะที่เป็นผู้ที่อยู่ในช่วงก่อนเกิดเหตุ และได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้ต้องหาหลังเกิดเหตุ นอกจากนี้ยังได้สอบ สามีของผู้เสียชีวิตอีก1ราย (รายใหม่) ที่จ.มุกดาหาร ที่ผู้ต้องหาส่งยาแคปซูล อ้างเป็นยาบำรุงไปให้กิน ก่อนจะเสียชีวิต รวมถึงออย 1 ในลูกแชร์ ที่ผู้ตายเคยสอบถามว่า เวลาตำรวจจะตามหาคน จะทำอย่างไร

หลังจากนี้ก็จะเรียก นายรพี ชำนาญเรือ แกนนำประชาชนเพื่อประชาชน ซึ่งเป็นผู้สานงานกับผู้เสียหายเข้าให้ปากคำในวันที่ 29 เม.ย.66

“จากการสอบสวนยังเชื่อว่าแอมลงมือคนเดียวไม่มีใครร่วมมือด้วย เนื่องจากแผนประทุษกรรม จะอาศัยความใกล้ส่วนตัวเพื่อลงมือ”

ส่วนที่ว่าน.ส.แอม มีความรู้ด้านการใช้ไซยาไนด์ ได้อย่างไรนั้น จะเกี่ยวข้องกับพี่สาวที่เปิดร้านขายยาหรือไม่  ส่วนนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับพี่สาวเขา ที่เป็นเภสัชกรด้วย เพราะถึงแม้ว่าพี่สาวจะเปิดร้านยา แต่สารตัวดังกล่าวไม่อนุญาตให้ซื้อขายได้ทั่วไป หรือขายตามร้านยาต่างๆ

ขณะนี้ทางตำรวจกองปราบปราม กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่าสารดังกล่าว นางแอม สั่งซื้อมาจากช่องทางอื่น โดยปกติสารดังกล่าวเป็นสารควบคุมใช้ในกลุ่มอุตสหกรรมต่าง ๆ ไม่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป ส่วนผู้ก่อเหตุไปซื้อมาจากแหล่งไหน เจ้าหน้าที่มีข้อมูลหมดแล้ว

ส่วนพี่สาวของนางแอม จะให้คำปรึกษาเรื่องวิธีการใช้หรือไม่นั้น ก็ต้องรอสอบปากคำอีกครั้ง อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางตำรวจยังไม่พบว่า มีผู้อื่นร่วมกระทำความผิด ซึ่งยังเชื่อว่านางแอม ลงมือคนเดียวไม่มีใครร่วมมือด้วย เนื่องจากแผนประทุษกรรม จะอาศัยความใกล้ชิดเพื่อลงมือ ซึ่งก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทางพี่สาวของแอมด้วย
จับตากองปราบ ขยายผล\"แอม ไซยาไนด์\" เรียก“ส้ม”พี่สาวท้าวแชร์ให้ข้อมูลมัดตัว
พ.ต.อ.เอนก กล่าวถึงกรณีพฤติกรรมโหดเหี้ยมฆ่าผู้อื่นนับสิบราย จะมีอาการผิดปกติทางจิตหรือไม่นั้น จากการสอบปากคำ นางแอม เบื้องต้นไม่พบว่ามีอาการผิดปกติทางจิตแต่อย่างใด ซึ่งเจ้าตัวก็พูดจาเหมือนคนปกติทั่วไป ทั้งนี้ก็ต้องรอให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวช ทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

“คดีนี้เป็นคดีที่เกิดขึ้นใหม่ ทำให้สังคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องทำการเรียนรู้ และตระหนัก รวมไปถึงควบคุม และป้องกันการซื้อสารอันตรายในลักษณะนี้มากขึ้น ส่วนการขยายผลทางเส้นทางการเงิน ตำรวจเห็นเส้นทางการเงินแล้ว มีทั้งธุรกิจการจำนำรถยนต์ ซึ่งหลังจากนี้น่าจะมีอะไรที่ตื่นเต้นมากกว่านี้ ซึ่งอยู่ระหว่างการขยายผล” รอง ผบก.ป. กล่าว

จับตากองปราบ ขยายผล\"แอม ไซยาไนด์\" เรียก“ส้ม”พี่สาวท้าวแชร์ให้ข้อมูลมัดตัว

ทั้งนี้มีรายงานว่า "ไซยาไนด์" ที่ใช้ก่อเหตุ "แอม"สั่งซื้อมาจากช่องทางออนไลน์ เนื่องจากสอบปากคำกลุ่มวัยรุ่น 5 คน ทราบว่า ช่วงก่อนสงกรานต์ นางแอม ได้นำกล่องพัสดุ นำจ่ายในชื่อของตัวเองที่หน้ากล่องมาให้ ก่อนจะว่าจ้างให้นำขวดยาในกล่องดังกล่าวไปฝังดิน โดยให้ค่าจ้าง 500 บาท ด้วยความสงสัยหนึ่งกลุ่มวัยรุ่น จึงเปิดกล่องแล้วดมสารดังกล่าว จากนั้นก็มีอาการวิงเวียนศีรษะมึนงงไป 3 วัน 

อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่มวัยรุ่นก็ยังไม่ได้นำขวดยาดังกล่าวไปฝังตามที่รับปากไว้ เพราะมัวแต่เล่นสงกรานต์จนเพลิน เมื่อนางแอม โทรไปสอบถามทราบว่า ยังไม่ได้นำไปฝัง จึงได้ขับรถไปหา แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ได้ยึดขวดสารไซยาไนด์ไปแล้ว ต่อมา นางเเอม ก็ได้ไปค้นหากล่องพัสดุที่ระบุชื่อของตัวเองก่อนนำไปทำลายหลักฐาน 

อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางตำรวจได้ตรวจสอบกับบริษัทขนส่ง 2 บริษัท เพื่อหาหลักฐานว่า มีการส่งพัสดุให้ นางแอม หรือไม่ เพื่อมัดตัวผู้ต้องหาต่อไป