24 เมษายน 2566 ความคืบหน้าการเสียชีวิตปริศนาของ น.ส.ศิริพร ขันวงษ์ หรือก้อย อายุ 32 ปี เท้าแชร์ ชาวกาญจนบุรี จากอาการเป็นลมวูบขณะเดินทางไปทำบุญปล่อยปลากับเพื่อนสนิท ริมท่าน้ำ แม่น้ำแม่กลอง ที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เมื่อวันที่ 14 เมษายน ที่ผ่านมา พร้อมข้อพิรุธจนเป็นกลายเป็นประเด็นคาใจของบรรดาญาติ และครอบครัว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ล่าสุด นายรพี ชำนาญเรือ แกนนำประชาชนเพื่อประชาชน พร้อมด้วย นางทองพิน เกรียติชนะสิริ อายุ 63 ปี แม่ และครอบครัวของ น.ส.ศิริพร เดินทางเข้าพบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เพื่อให้ช่วยติดตาม และคลี่คลายการเสียชีวิตของ น.ส.ศิริพร ที่ญาติสงสัย เนื่องจากผู้ต้องสงสัยเป็นภรรยาของนายตำรวจในพื้นที่ ที่เกิดเหตุ
โดยนายรพี เปิดเผยว่า วันนี้ที่ขอเข้าพบกับพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เนื่องจากผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ มีสามารถเป็นตำรวจ ยศ พ.ต.ท. แม้ว่าจะมีการย้ายออกไปจาก สภ.บ้านโป่งแล้ว แต่ยังอยู่ในพื้นที่ จ.ราชบุรี จึงอยากจะขอให้ทางผู้ใหญ่มีคำสั่งย้ายออกนอกพื้นที่ จ.ราชบุรี และไปในพื้นที่ ที่ไกลกว่านี้ เพราะตอนนี้ญาติๆได้รับข้อมูลที่มีความเชื่อมโยง ในเรื่องของคดีที่มีความคล้ายคลึงกันหลายคดี
โดยมี น.ส.แอม รายนี้เข้าไปเกี่ยวข้อง ซึ่งตอนนี้ญาติๆ ผู้เสียชีวิตที่มี น.ส.แอม เข้ามาเกี่ยวข้องได้ทยอยมาให้ข้อมูลในทางลับ 6-9 รายแล้ว แต่ยังไม่กล้าที่จะเข้ามาให้ข้อมูลด้วยตนเอง โดยผู้ที่เสียชีวิตนอกจากจะมีพฤติการณ์ การเสียชีวิตทีคล้ายๆกันแล้ว คือก่อนเสียชีวิต ผู้ตายจะอยู่กับ น.ส.แอม และจะมีการชักชวนกันไปทำบุญ กลับมาก็เสียชีวิต
เกือบทุกรายยังอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน คือ จ.กาญจนบุรี จ.นครปฐม และ จ.ราชบุรี และเป็นบุคคลที่อยู่ในวงการตำรวจ ภรรยาตำรวจ นอกจากนี้กลุ่มคนที่เสียชีวิตยังมีความสัมพันธ์ในกับ น.ส.แอม ทั้งในเรื่องการลงทุนร่วมกัน การเล่นแชร์ หรือการเป็นหนี้เป็นสินที่ติดพันกันอยู่ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องทางด้านทรัพย์สิน
จึงอยากร้องขอให้ท่านรอง ผบ.ตร.เข้ามาช่วยคลี่คลายดคี รวมทั้งยังต้องการให้มีผู้เชี่ยวชาญการแพทย์ ด้านการตรวจสารพิษเข้าตรวจสอบ และอีกประเด็นคือเกี่ยวข้องกับข้อกฎหมาย ว่าทำอย่างไรถึงจะเอาผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้ และอยากให้ประชาชนระวังตัวด้วย เพราะบางทีไม่รู้เลยว่าคนใกล้ชิด เขาคิดอย่างไร และการลงทุนที่เกี่ยวกับทรัพย์สินเงินทอง ต้องคิดดีๆ และเวลาไปไหนมาไหน ควรแจ้งครอบครัว หรือคนที่เราไว้ใจ
ส่วนทางด้านนางทองพิน แม่ผู้เสียชีวิตเปิดเผยว่า อยากร้องขอความเป็นธรรม ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเหลือด้วย เอาคนผิดมาลงโทษ ซึ่งลูกสาว กับ น.ส.แอม รู้จักกันมานานกว่า 10 ปี แล้ว ไปมาหาสู่กันบ้าง แต่นานๆครั้ง ซึ่งในวันเกิดเหตุ ลูกสาวบอกเพียงว่าจะออกไปทำธุระ ตอนเย็นๆจะกลับมารับแม่ไปซื้อของ
ส่วนเรื่องที่ลูกไปลงทุนกับ น.ส.แอม หรือไม่ตนไม่รู้ ซึ่งหลังจากวันเกิดเหตุ น.ส.แอม ก็ไม่เคยติดต่อมา แถมทำเป็นไม่รู้เรื่อง ทั้งๆที่ลูกตนไปกับเขา ดูแล้วมันขัดแย้งกัน เชื่อว่าเขามีส่วน อยากฝากบอกว่าให้เจ้าตัวรับความจริง เพราะเวรกรรมมันมีจริง ถ้าถามว่ายังโกรธ น.ส.แอมอยู่ไหม ยอมรับว่ายังโกรธอยู่ ลูกสาวแม่ทั้งคน เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของครอบครัว ยังไม่รู้ว่าจะใช้ชีวิตอย่างไรต่อไป ทุกวันนี้ได้แต่คิดถึงลูก