1 กุมภาพันธ์ 2566 ความคืบหน้ากรณี ตำรวจ ปปป. เปิดปฏิบัติการ "ไข่นกกระทา" จับผู้อำนวยการโรงเรียน ย่านบางชัน ทุจริตเงินอาหารนักเรียน 3.2 แสนบาท เจ้าตัวยังให้การปฏิเสธ ไม่มีการเรียกรับเงินแต่อย่างใด แต่เรียกผู้ประกอบการมาพบจริง ส่วนซองเงินที่อยู่บนโต๊ะนั้น ไม่ทราบว่าเป็นของใคร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ล่าสุด พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. พร้อมด้วย นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. , นายศรชัย ชูวิชัย ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ช. ได้ร่วมแถลงผลจับกุม นายไพฑูรณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 58 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนชื่อดัง ย่านบางชัน ผู้ต้องหาเรียกรับสินบนโครงการอาหารกลางวันเด็กนักเรียน
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ผอ.ไพฑูรณ์ เพิ่งย้ายมาใหม่ มาถึงก็เห็นช่องว่างว่า ผู้ประกอบการ ได้กำไรจากอาหารเช้า ที่เด็กนักเรียนไม่ค่อยมากินกัน จึงเรียกเงินตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน เป็นต้นมา ทางผู้ประกอบการ ซึ่งได้กำไรจากโครงการดังกล่าวน้อยอยู่แล้ว จึงไปหยิบยืมเงินเพื่อมาจ่ายใต้โต๊ะให้ เนื่องจากถูกขู่ว่า จะยกเลิกสัญญา แต่ตอนหลังผู้ประกอบการ ทนแบกรับภาวะขาดทุน และพฤติกรรมดังกล่าวไม่ไหว จึงแจ้งตำรวจจับกุมดังกล่าว
ทั้งนี้ที่ ผอ.อ้างว่า จะนำเงินไปซื้ออุปกรณ์โต๊ะเก้าอี้นั้น ถือว่า เป็นงบคนละส่วน เงินที่เรียกรับจากผู้ประกอบการนั้น เป็นเงินค่าอาหารกลางวันของเด็ก เด็กต้องได้ทานอาหารที่ดี มีประโยชน์ที่รัฐจัดสรรให้ ซึ่งการจับกุมครั้งนี้ ถือว่าเป็นการช่วยปรามไม่ให้โรงเรียนอื่น เอาเป็นเยี่ยงอย่าง อย่างไรก็ตามตนอยากให้ข้าราชการเกรงกลัวต่อบาปกันบ้าง อย่าไปทำเเบบนี้กับเด็กตาดำๆ เลย
ด้าน นายนิวัติไชย กล่าวว่า จากการตรวจสอบ ขณะนี้พบว่า มี ผอ.เป็นผู้กระทำผิดเพียงคนเดียว แต่ทั้งนี้ทาง ป.ป.ท.ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้เร่งรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนขยายผลว่า มีใครมาเกี่ยวข้องอีกหรือไม่ ส่วนกรณีที่ ผอ.อ้างว่า จะนำเงินส่วนดังกล่าวไปจัดซื้อโต๊ะเก้าอี้ 40 ชุดนั้น
จากการตรวจสอบทราบว่า เป็นแค่การกล่าวอ้างเท่านั้น เพราะงบการจัดซื้อ ทางเขตเป็นผู้รับผิดชอบในส่วนนี้อยู่แล้ว อย่างไรก็ตามทาง ป.ป.ท.ได้รับแจ้งข้อมูลการโกงอาหารกลางวันเด็กจำนวนมาก ซึ่งทางเรากำลังเร่งส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบแล้ว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้ตัว นายไพฑูรย์ จะให้การปฏิเสธว่า ไม่ได้มีการเรียกรับเงินจากผู้ประกอบการ รวมถึงอ้างว่า ไม่ทราบว่า ภายในซองเป็นเงินสด ซึ่งในส่วนนี้ทางเจ้าหน้าที่เอง ก็ไม่ได้หนักใจ เพราะมั่นใจในพยานหลักฐานที่มีอยู่ว่า จะสามารถเอาผิดผู้ต้องหารายนี้ได้
โดยเฉพาะหลักฐานภาพจากกล้อง ที่บันทึกไว้ขณะพยาน นำซองเงินไปมอบให้กับนายไพฑูรย์ ในห้องทำงานตามข้อเรียกร้อง โดยกล้องดังกล่าว สามารถบันทึกภาพ ขณะที่นายไพฑูรย์ กำลังเปิดแกะซองเอกสารสีน้ำตาล เพื่อดูเงินของกลางภายในซอง ได้อย่างชัดเจน ค่อนข้างขัดแย้งกับคำให้การของเจ้าตัวเป็นอย่างมาก