ความคืบหน้ากรณีที่วันนี้ (5 ก.ย.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ นัด นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 อุบลราชธานี พร้อมนายบุญแทน บุษราคำ, นายธนเสฏฐ์ หรือ ไพฑูรย์ แช่มเทศ และนายกฤษณพงษ์ จิตต์เทศ ผู้ต้องหาที่1 - 4 ในการเสียชีวิต นายพอละจี หรือ บิลลี่ รักจงเจริญ แกนนำชุมชนกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เพื่อส่งตัวให้อัยการพร้อมสำนวนคดี เพื่อให้พนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ยื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร เป็นจำเลยคดีต่อศาลดังกล่าวตาม ขั้นตอนกฎหมายต่อไป ซึ่งเบื้องต้นนายชัยวัฒน์ ยืนยันไม่กังวลคดี โดยเตรียมหลักทรัพย์ยื่นประกันตัวคนละ 1 ล้าน และขอประชาชนตามพิสูจน์ เห็นใจลูกน้องอยู่ใกล้ตัวเจอปัญหา (อ่านข่าว)
ล่าสุดช่วงบ่ายที่ผ่านมา ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ภายหลังการพิจารณาของศาล นานกว่า 4 ชั่วโมง ศาลมีคำสั่งประทับรับฟ้องเป็นคดี พิจารณาให้ประกันตัวโดยใช้หลักทรัพย์ประกันตัว วงเงินคนละ 8 แสนบาท โดยมีเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศ และห้ามยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานทางคดี โดยไม่มีคำสั่งให้ออกจากราชการ และนัดสอบคำให้การในวันที่ 26 กันยายน 2565 เวลา 9.30 น.
จากนั้น นายชัยวัฒน์ ได้ลงมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยขอบคุณและบอกว่า รู้สึกโล่งใจที่ศาลให้ ประกันตัวและได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในครั้งนี้ ยอมรับว่า ลดความกดดันได้ไปส่วนหนึ่ง และมองว่าเป็นการให้โอกาสตนเองได้ต่อสู้คดี ซึ่งหลังจากนี้จะต้องว่าไปตามพยานและหลักฐาน และได้ขอขอบคุณกลุ่มทนาย ที่ช่วยเหลือเรื่องเงินประกันของทุกคน จากเงินกองทุนที่ตั้งขึ้นมาสำหรับคดีนี้ ซึ่งเงินทั้งหมดนั้นไม่ใช่เงินของตนเองและเงินของกระทรวง
ส่วนกรณีที่มีฝั่งชาวบ้าน กังวลว่าหาก นายชัยวัฒน์ได้รับการประกันตัวจะมีการคุกคามนั้น นายชัยวัฒน์ ได้ชี้แจงด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ตนเองต่างหากที่เป็นฝ่ายถูกคุกคาม ทั้งจากสังคม และชาวบ้าน เพราะตนเองนั้นทำงานอยู่ในป่า ไม่ได้รับรู้ข่าวสารอะไร แต่กลับถูกสื่อและสังคม กล่าวหาว่า หนีคดี ว่าไปคุกคามชาวบ้าน อีกทั้ง ชาวบ้านยังใช้โอกาส ที่เป็นชนกลุ่มน้อย อ้างเรื่องสิทธิขึ้นมา ต่อว่าตนเองอีก ทั้งที่ผ่านมาตนไม่เคยจับกุมกลุ่มชาติพันธ์เลยสักคดีเดียว และจนถึงนาทีนี้ ตนเองยังขอยืนยัน ถึงความบริสุทธิ์ว่า ไม่ได้เป็นผู้กระทำในคดีการเสียชีวิตของบิลลี่
ส่วนการกลับเข้ารับราชการ ที่มีการตั้งข้อสงสัยว่า ก่อนหน้านี้ไม่มีเอกสารชี้แจงให้กลับไปทำงานนั้น ตนเองชี้แจงว่า เป็นไปตามมติของกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งตอนนี้ตนเองทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจราชการ หากจะมีการโยกย้ายไปจุดไหนขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้บริหารกระทรวงฯ ส่วนหนังสือให้กลับเข้ารับราชการได้นำมายื่นต่อศาลแล้ว