จากการที่คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง และร่างประกาศเกี่ยวกับการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลแบบ L6 และ N3 และเตรียมการจะเริ่มจำหน่ายในไม่ช้านั้น
นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน กล่าวแสดงความเห็นต่อเรื่องนี้ว่า “การจะเพิ่มผลิตภัณฑ์สลากกินแบ่งรัฐบาลชนิดใหม่ รัฐบาลควรคิดให้รอบคอบ เพราะมีตัวเลขทางวิชาการยืนยันว่า สังคมไทยมีคนเสพติดหวยเยอะมาก
จากรายงานการสำรวจสถานการณ์การพนันในสังคมไทย ปี2564 ของศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่า หวยรัฐบาล หวยใต้ดิน และหวยอื่น ๆ ที่กำลังแพร่หลาย ณ ขณะนี้ เป็นสิ่งเสพติด มีคอหวยหลายล้านคนสารภาพว่าติดหวย เลิกเล่นไม่ได้ แยกเป็นกลุ่ม ๆ ได้ดังนี้
หนึ่ง สลากกินแบ่งรัฐบาล มีผู้เล่นราว 21% หรือราว 5.22 ล้านคนที่ประเมินว่าตนเองติดการซื้อสลากกินแบ่ง
สอง หวยใต้ดิน มีผู้เล่นราว 23% หรือราว 4.48 ล้านคนที่ประเมินว่าตนเองติดการซื้อหวยใต้ดิน
และสาม หวยอื่น ๆ เช่น หวยรายวัน จำพวกหวยหุ้น หวยฮานอย หรือหวยรายสามวันอย่างหวยลาว เป็นต้น มีผู้เล่น 0.6% หรือราว 6 แสนคนที่ประเมินว่าตนติดหวยพวกนี้
หลักฐานยืนยันทางการแพทย์ระบุว่า ในระหว่างการเล่นพนัน เช่น การลุ้น การตั้งความหวัง การสรวลเสเฮฮาเกี่ยวกับหวย หรือการมีประสบการณ์ถูกรางวัล ทำให้สมองหลั่งสารแห่งความพึงพอใจที่ชื่อ ดอร์ปามีน ซึ่งเมื่อบุคคลอยู่กับกิจกรรมการซื้อหวยอย่างเข้มข้นหรือเป็นระยะเวลาต่อเนื่องยาวนาน จะทำให้เกิดอาการสมองเสพติดสารนี้ และจะมีผลให้เขาสูญเสียการควบคุมตัวเอง
รู้ทั้งรู้ว่าเล่นหวยแล้วมีโอกาสจะเสียมากกว่าได้ แต่ก็ไม่อาจฝืนใจไม่เล่นได้ และกลับมีการเล่นที่มากขึ้น ใช้เงิน ใช้เวลา หมกมุ่นมากขึ้น และนำไปสู่การแสวงหาการเล่นหวยที่เร้าใจมากขึ้น เช่น เริ่มอดใจรอไม่ได้กับการซื้อสลากกินแบ่งหรือหวยใต้ดินที่ต้องรอถึงสองอาทิตย์จึงจะรู้ผล จึงหันไปเล่นหวยรายวันหรือรายชั่วโมงแทน
ที่น่าสนใจคือ ยิ่งผู้เล่นมีอายุต่ำมากเพียงใด ยิ่งมีโอกาสจะเป็นผู้เสพติดมากขึ้น ซึ่งตัวเลขผลการสำรวจสถานการณ์พนันในกลุ่มเด็กเยาวชนที่มักนิยมเล่นพนันทางออนไลน์ ปีล่าสุดก็พบว่า เยาวชนอายุ 19-25ปี กว่า 9 แสนคนนิยมเล่นหวยใต้ดิน และอีก 9 แสนคนนิยมซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล ขณะที่ในกลุ่มเด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปีลงมา ราว 1 แสนคนนิยมเล่นหวยใต้ดิน และราว 8 หมื่นคนซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งหากมีการเล่นอย่างต่อเนื่องและทวีความเข้มข้นมากขึ้นเด็กเยาวชนกลุ่มนี้เสี่ยงที่จะเป็นผู้ติดหวยในอนาคต
รัฐบาลควรตระหนักต่อปัญหาและคิดให้รอบคอบ อย่าเห็นแก่ประโยชน์ในการหารายได้เข้ารัฐ หรือคิดแต่จะแก้ปัญหาสลากแพงเพียงด้านเดียว เพราะการหวังผลได้ในด้านหนึ่งอาจนำมาซื่งผลเสียในอีกด้านหนึ่ง
และอยากเรียกร้องให้มีการเปิดเผยรายงานการศึกษาผลกระทบทางสังคมที่นักวิชาการได้ศึกษามาว่ามีข้อค้นพบอย่างไร รวมถึงรายงานการรับฟังความเห็นของผู้มีส่วนได้เสียกับการออกสลากL6N3ด้วย เพราะเท่าที่ทราบมา ผู้ค้าสลากรายย่อยจำนวนมากคัดค้านการออกสลากชนิดนี้ การแถลงว่ากลุ่มผู้ซื้อ กลุ่มผู้ขายสลาก และกลุ่มผู้ขายสลากที่เป็นผู้ด้อยโอกาสและคนพิการ ที่เข้าร่วมแสดงความคิดเห็น 14,398 คน ส่วนใหญ่เห็นด้วย เป็นการตีขลุมไปเองของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือเปล่า” นายธนากร กล่าว