"พลตรีหญิง ศิริจันทร์ งาทอง" รองโฆษกกองทัพบก ชี้แจงกรณีนักธุรกิจเข้าร้องเรียนต่อกระทรวงยุติธรรม โดยแฉข้อมูลการก่อสร้างบ้านพักอาศัยเพื่อให้กำลังพลกู้ผ่อนชำระจากกรมสวัสดิการทหารบก และถูกเรียกรับผลประโยชน์ รวมทั้งการข่มขู่จากทหาร ว่า ที่ผ่านมากองทัพบกมีโครงการกู้ยืมเงิน อทบ.เพื่อการเคหสงเคราะห์
โดยเปิดโอกาสให้กำลังพลกู้เงินตามอัตราที่กำหนด เพื่อนำไปดำเนินการเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย ได้แก่ การซ่อมแซม และการซื้อบ้านพักอาศัย โดยกรมสวัสดิการทหารบก เป็นหน่วยรับผิดชอบ ต่อมาได้ตรวจพบปัญหาการเข้ามาหาประโยชน์จากโครงการดังกล่าว ทำให้กำลังพลเดือดร้อน และไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของงานด้านสวัสดิการ
"กองทัพบก" จึงได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และได้มีคำสั่งให้ระงับโครงการกู้เงิน อทบ. เพื่อการเคหสงเคราะห์ดังกล่าว ตั้งแต่ปี 2564 พร้อมกับได้ปรับระบบกิจการออมทรัพย์ของกองทัพบกในภาพรวม ร่วมกับหน่วยงานภายนอกและสถาบันการเงิน
อาทิ ธนาคารกรุงไทย และธนาคารออมสิน โดยได้ออกระเบียบการกู้เงินให้เป็นลักษณะการกู้ยืมผ่านสถาบันการเงินเท่านั้น และการปรับระบบกู้เงินดังกล่าวทำให้กำลังพลชั้นผู้น้อยเข้าถึงสวัสดิการภายใต้ระบบการกำกับดูแล การตรวจสอบ รวมถึงป้องกันการเข้ามาแสวงประโยชน์โดยมิชอบ
ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า กองทัพบกไม่มีนโยบาย และไม่ได้ดำเนินการใดๆ ในการเรียกค่าใช้จ่ายหรือหักเงินส่วนต่างจากการกู้เงินของกำลังพล เพราะการให้กู้เงินเป็นสวัสดิการเพื่อช่วยเหลือและแบ่งเบาภาระให้กับกำลังพล ส่วนที่มีการร้องเรียนผ่านสื่อนั้น กองทัพบกได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงระดับกองทัพบก
ผลการสอบสวนได้เสร็จสิ้นกระบวนการแล้ว มีบทลงโทษตามระเบียบของทางราชการ และวินัยทหารต่อกำลังพลที่ถูกร้องเรียน งดบำเหน็จประจำปี การปรับย้ายออกจากตำแหน่ง
อีกทั้งจากการสอบสวนพบประเด็นการกู้ยืมเงินระหว่างผู้ร้องกับกำลังพลที่ถูกร้องเรียนด้วย ถือเป็นข้อพิพาทส่วนบุคคล และปัจจุบันอยู่ในกระบวนการของศาลแล้ว ซึ่งจะต้องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม
อย่างไรก็ตาม การร้องเรียนดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่ จ.นครราชสีมา ที่เกิดขึ้นในปี 2563 ขออย่าได้นำไปเชื่อมโยงกัน เพราะจะทำให้ประชาชนเกิดความสับสน
"พลตรีหญิง ศิริจันทร์" กล่าวอีกว่า การจัดสวัสดิการของกองทัพบก เพื่อการดำรงเกียรติของทหาร ตามเจตนารมณ์ของผู้บังคับบัญชา ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยการให้กำลังพลกู้ยืมเงินเพื่อที่อยู่อาศัย ถือเป็นหนึ่งในสวัสดิการและเป็นโครงการที่มีประโยชน์ต่อกำลังพล แต่ก็อาจมีผู้ที่หาผลประโยชน์จากโครงการ ซึ่งเป็นเรื่องที่กองทัพบกยอมไม่ได้ เพราะส่งผลกระทบต่อกำลังพลโดยตรง
ดังนั้นกองทัพบกจะดำเนินการทุกมาตรการด้วยความโปร่งใส ยึดประโยชน์กำลังพลชั้นผู้น้อยเป็นสำคัญ และเพื่อเป็นสวัสดิการระยะยาวที่สร้างความมั่นคงให้กับกำลังพลอย่างแท้จริง
กองทัพบก ขอขอบคุณทุกส่วนที่มีความห่วงใย และนำเสนอข้อมูลในแง่มุมต่างๆ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของทหารชั้นผู้น้อย ซึ่งตรงกับเจตนารมณ์ของผู้บัญชาการทหารบก และนโยบายของกองทัพบกที่ดำเนินการอยู่
"เหตการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องที่นักธุรกิจร้องเรียนมีปัญหากับทหาร ถือเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ใช่ภาพรวมโครงการ" รองโฆษก ทบ.กล่าวย้ำ