สถานการณ์ไฟไหม้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นฉับพลันและสามารถคร่าชีวิตผู้ประสบภัยได้อย่างทุกข์ทรมาน ดังนั้นทุกคนไม่ว่าใครก็ตามควรมีความรู้เบื้องต้นในการเอาตัวรอดจากไฟไหม้ติดตัวไว้ใช้ในยามคับขัน
จากเหตุการณ์ไฟไหม้ที่เกิดขึ้นในหลายครั้งเรียกได้ว่าสามารถคร่าชีวิตผู้ประสบเหตุได้อย่างทุกข์ทรมาน โดยเฉพาะกรณีล่าสุดที่กำลังเป็นที่สนใจและสะเทือนใจของคนในสังคมอยู่ในขณะนี้ จากกรณีไฟไหม้ผับดังในชลบุรี "เมาท์เทน บีผับ" ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิต 13 เสียชีวิตจำนวนมากอย่างน่าตกใจ
สำหรับความรู้เบื้องต้นใน “การเอาตัวรอดจากไฟไหม้” ไว้ใช้ในยามคับขัน โดยข้อมูลจาก อ. นพ.พงศศิษฏ์ สิงหทัศน์ สาขาวิชาศัลยศาสตร์อุบัติเหตุและเวชบำบัดวิกฤตศัลยกรรม ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ให้ข้อมูลไว้ว่า
1.ตั้งสติแล้วรีบพาตัวเองออกมาจากที่เกิดเหตุให้เร็วที่สุด
2.พยายามหลีกเลี่ยงการสูดควันต่าง ๆ เข้าไป เพราะอาจทำให้ร่างกายขาดออกซิเจน ทั้งยังได้รับสารเคมีต่าง ๆ ที่เป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ
3.เอาผ้าชุบน้ำปิดปากปิดจมูก หรือหาผ้าห่มชุบน้ำแล้วห่มตัว จากนั้นรีบหาทางออกมาจากที่เกิดเหตุ
4.หากอยู่ในห้อง อย่าเพิ่งรีบเปิดประตู ควรจับประตูก่อนเพื่อดูว่าร้อนหรือไม่ หากรู้สึกร้อนนั่นหมายถึงอาจมีไฟอยู่หลังประตู จึงไม่ควรเปิดเพราะจะทำให้ควันไฟเข้าห้อง ควรหาผ้าหรืออื่น ๆ มาอุดตรงประตู เพื่อป้องกันไม่ให้ควันไฟเข้ามาในห้องได้
5.หากติดอยู่ในห้องพยายามส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ เช่น ส่องไฟมือถือออกไปทางหน้าต่าง เพื่อให้ภายนอกรู้ว่ามีคนต้องการความช่วยเหลืออยู่
6.หลีกเลี่ยงการใช้ลิฟต์ ควรใช้บันไดหนีไฟแทน
7.หลีกเลี่ยงการวิ่งหนีเข้าจุดอับ
8.ระหว่างหาทางออกจากที่เกิดเหตุ หากมีควันมากพยายามก้มต่ำหรือคลาน เพราะออกซิเจนจะลอยอยู่ที่ต่ำ
นอกจากนี้ยังแชร์วิธีการช่วยเหลือผู้อื่นจากสถานการณ์ไฟไหม้ด้วยว่า หากอยู่ในสถานการณ์คับขันให้รีบพาผู้ประสบภัยออกมาจากที่เกิดเหตุให้เร็วที่สุด หากเพลิงไหม้สงบลงแล้ว การช่วยเหลือผู้ประสบภัยควรดูแลเรื่องกระดูกต้นคอเป็นหัวใจสำคัญ โดยการขนย้ายด้วยเปลหรือเบาะ อย่าหิ้วแขนหรือยกศีรษะห้อยลงในขณะเคลื่อนย้าย เพราะอาจทำให้กระดูกเคลื่อนได้
สำหรับกรณีที่ผู้ประสบภัยถูกไฟครอกจนเสียหายรุนแรง หลังช่วยเหลือออกจากที่เกิดเหตุได้แล้ว ให้รีบถอดหรือตัดเสื้อผ้าออกจากร่างกายผู้ประสบภัย เพราะเสื้อผ้าจะอมความร้อนเอาไว้มาก แต่อย่าใช้วิธีกระชาก เพราะเนื้อผ้าบางส่วนอาจติดที่บริเวณผิวหนัง ทำให้ผิวหนังหลุดออกมาด้วย
ถอดเครื่องประดับ เช่น นาฬิกาข้อมือ กำไล ต่างหู ออกจากตัวผู้ประสบภัย เพราะของเหล่านี้อมความร้อนจะทำให้เกิดการพอง
ใช้น้ำสะอาดอุณหภูมิปกติรดตัวผู้ประสบภัย เพื่อลดความร้อนให้กับร่างกาย ใช้ผ้าชุบน้ำห่มตัวผู้ประสบภัยไว้ก่อน แล้วนำผ้าบางคลุมอีกชั้นหนึ่ง จากนั้นให้รีบนำส่งโรงพยาบาล
หากที่เกิดเหตุและโรงพยาบาลอยู่ไกลให้ผู้ประสบภัยดื่มน้ำก่อน เพราะผู้ประสบภัยมักจะมีภาวะขาดน้ำ แต่ถ้าโรงพยาบาลอยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุมากนักให้รีบนำส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด รีบเปิดทางเดินหายใจให้ผู้ประสบภัยหลังนำตัวออกมาจากที่เกิดเหตุ
ขอบคุณข้อมูล โรงพยาบาลรามาธิบดี