"รายการคมชัดลึก เนชั่นทีวี" โดย วราวิทย์ ฉิมมณี ผู้ดำเนินรายการ ได้เชิญ รศ.โคทม อารียา อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง และนาย นิกร จำนง เลขานุการ คณะกรรมาธิการ พ.ร.ป. ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ร่วมแลกเปลี่ยนพูดคุยถึงประเด็น การแก้กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ที่มีการปรับสูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อจากการหาร 100 กลับมาเป็น หาร 500 ซึ่งล่าสุดมีการนัดประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาวาระสามในวันที่ 3 ส.ค.นี้ จะเกิดเหตุการณ์ปาฏิหาริย์อะไรขึ้นอีกหรือไม่
สูตรเลือกตั้งจบที่หาร 100
"นายนิกร จำนง" กล่าวถึงขั้นตอน พ.ร.ป. ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ในวันพุธนี้ เชื่อว่า ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. จะนำเข้าพิจารณาและทันกรอบเวลา 180 วัน หลังจากนั้นจะส่งให้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ซึ่งจะต้องพิจารณาตอบกลับภายใน 10 วันว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งหากทาง กกต.ไม่ทักท้วง ต่อสูตรการเลือกตั้ง ขั้นตอนต่อไปจะเสนอต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ
"แต่หากข้อเสนอและความเห็นว่าสูตรเลือกตั้งยังคงต้องเป็นการหาร 100 เมื่อถึงตอนนั้น เชื่อว่า ฝ่ายค้าน หรือ กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) จะมีการยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้โดยส่วนตัว ผมก็ไม่เห็นด้วยกับการใช้สูตรหาร 500 และควรจะเป็น สูตรเลือกตั้งหาร 100 มากกว่า เพราะเป็นเจตนารมณ์ของการร่างกฏหมายลูกตั้งแต่แรก" นายนิกร กล่าว
"นายนิกร" ในฐานะสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนา มั่นใจว่าการกลับไปใช้บัตรเลือกตั้งแบบใบเดียว ไม่เห็นด้วย เพราะในอดีตนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย และอดีตนายกรัฐมนตรี ก็เป็นผู้บุกเบิกการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้มีการใช้บัตรเลือกตั้งเป็น 2 ใบคือ เลือกตั้งเขต และเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งถือว่าเป็นการพัฒนาระบบการเมืองมาแล้ว เพราะฉะนั้นการย้อนกลับไปใช้บัตรเลือกตั้งเพียงใบเดียวเป็น ต้องผ่านกระบวนการเห็นชอบจากพรรคการเมืองก่อนเพราะฉะนั้นเป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้ เพราะสูตรการหาร 500 ก็ต้องยึดสัดส่วนคะแนนเสียง 2 แสนคะแนน ไม่ใช่ 75,000 คะแนน เพราะฉะนั้น สูตรเลือกตั้งหารด้วย 100 ถือเป็นเจตนารมณ์ตั้งแต่แรกของกฎหมาย
"ชาติไทยพัฒนาไม่เห็นด้วยกับบัตร 2 ใบ เพราะคุณบรรหาร เป็นผู้ริเริ่มแก้ไข ปัจจุบันเราเป็นพรรคขนาดกลางที่มีความได้เปรียบเสียเปรียบ แต่เราเห็นว่าจะเกิดการพัฒนาการเมือง ซึ่งการแก้ไขให้กลับไปใช้บัตรใบเดียวก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องผ่านพรรคการเมืองก่อน ซึ่่งการแก้ไขแทบเป็นไปไม่ได้"
ผู้มีอำนาจเหนือรัฐธรรมนูญ บงการสูตรเลือกตั้ง
"รศ.โคทม อารียา" อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวว่า มีคนที่มีอำนาจมาก กำลังนั่งคำนวณเรื่องของสูตรการเลือกตั้ง ในแบบหาร 500 และ แบบหาร 100 จนกระทั่งมีการคิดคำนวณกลับไปกลับมา ทั้งที่ระบบการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เข้าสู่ระบบการแก้ไขมาแล้ว ร่วมถึงบัตรเลือกตั้งที่ก้าวเข้าสู่ระบบสัดส่วน และระบบคู่ขนาน แต่ผู้มีอำนาจเล่นการเมืองแบบไม่ใช้หลักการแต่ใช้หลักเรา
"รศ.โคทม" กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า ฝากผู้มีอำนาจ อย่ากลับไปใช้บัตรใบเดียวในการเลือกตั้ง อย่าเอา 2 ระบบคู่ขนานมาทำให้ ประชาชนสับสน ขอให้กลับไปดูเจตนารมณ์ของกฏหมาย เพราะประเทศไทย ผ่านเรื่องของระบบการเลือกตั้งด้วยบัตรใบเดียวมาแล้ว หากจะกลับไปใช้ ไม่ถูกหลักการ และเหมือนการสับขาหลอก
"เจตนารมณ์ต้องการเอาแบบคู่ขนาน ตั้งแต่ปี 2540 จนถึงปี 2554 ต้องเดินตามนี้ บัตรใบเดียวไม่ถูกหลักการ อย่าสับขาหลอก เหมือนการเล่นฟุตบอล จะเอากีฬาชนิดอื่นมาเปลี่ยนกติกาไม่ได้ ควรให้ประโยชน์กับประชาชน"