ตำรวจจีนใช้ DNA จากตัวอย่างน้ำลายที่ได้จากสมาชิก 5 ครัวเรือน มาเปรียบเทียบกับตัวอย่างที่เก็บจากซังข้าวโพด ที่ถูกขว้างทิ้งลงมาโดนศีรษะของเด็กทารกเพศหญิงวัย 8 เดือน ที่ยายอุ้มไปเดินเล่นอยู่ที่ชั้นล่างของอาคารขนาด 19 ชั้น ในเมืองเจียซิง มณฑลเจ้อเจียง ทำให้เด็กได้รับบาดเจ็บ มีเลือดออกที่ศีรษะต้องส่งโรงพยาบาล แต่ตอนนี้อาการทรงตัว
หลังได้ผลจากการตรวจ DNA ตำรวจได้จับหญิงวัย 69 ปี ที่ถูกระบุเพียงว่าแซ่ซู ที่อาศัยอยู่ที่ชั้น 2 ของอาคาร ที่อาจต้องโทษปรับหรือจำคุกขึ้นอยู่กับอาการของเด็ก ตำรวจบอกว่าตอนแรกไปดูที่อาคารเพื่อสำรวจว่าซังข้าวโพดน่าจะถูกโยนมาจากที่ไหน แต่ไม่มีใครยอมรับ ก็เลยสืบแบบกระชับด้วยการเลือกเฉพาะคนที่ซื้อข้าวโพดในวันนั้น และตรวจภาพจากกล้องวงจรปิดด้วย ก่อนนำคนเหล่านั้นไปตรวจ DNA
ตอนแรกหญิงแซ่ซูก็ไม่ยอมรับ แต่ต่อมาสารภาพว่ากินข้าวโพดตอนที่ขึ้นไปเก็บผ้าอยู่บนชั้นดาดฟ้า และโยนซังข้าวโพดลงมา ภาพจากกล้องวงจรปิดแสดงให้เห็นซังข้าวโพดตกไปบนคอมเพรสเซอร์ของเครื่องปรับอากาศ ก่อนตกลงบนศีรษะของเด็กที่ยายอุ้มผ่านไปพอดี ซึ่งจีนมีกฎหมายที่ใช้เล่นงานพวกมักง่ายที่ทิ้งขยะจากอาคารสูงจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และไม่ได้จำกัดแค่ขยะเพราะมีบางเคส มีมีดทำครัวหรือแม้กระทั่งโทรทัศน์ร่วงลงมาด้วย
มีกรณีหญิงวัย 67 ปีคนหนึ่ง เสียชีวิตหลังถูกเครื่องพรินเตอร์หล่นใส่ ขณะเดินอยู่ใต้อาคารสำนักงานแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้บ้านในเมืองชิงเต่า มณฑลชานตง จากการสืบสวนพบว่าเป็นฝีมือของวัยรุ่นชายคนหนึ่ง ที่ขว้างลงมาจากชั้นที่ 27 ที่ไปเรียนกวดวิชา โชคช่วยที่เขาไม่โดนข้อหาทางอาญาเพราะยังเป็นเยาวชน