14 มิถุนายน 2565 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าววันนี้ (14 มิ.ย.)ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะผู้บริหาร กทม.เพื่อพิจารณางบประมาณรายจ่ายของกทม.ในปี 2566 หลังเดินทางกลับจากสหรัฐว่า งบประมาณของ กทม.ส่วนใหญ่จะเป็นงบผูกพัน โดยปี 2565 มีงบผูกพัน 98,000 ล้านบาท ส่วนปี 2566 ตั้งไว้ 14,700 ล้านบาท และปี 2567 อีก 24,000 ล้านบาท ส่วนงบลงทุนปี 2566 มีอยู่ประมาณ 1,700 ล้านบาท
“ นโยบายของเรายังนำเข้างบฯไม่ได้ เพราะเข้ามา (รับตำแหน่ง) ก็ทำเกือบเสร็จไปแล้ว คงปรับไม่ทัน แต่จะพยายามผลักดันให้มากที่สุด โดยจะปรับในขั้นตอนแปรญัตติวาระ 2 และ 3 กทม.มีงบผูกพันเยอะ เป็นข้อจำกัด ทำให้ต้องหาช่องทาง ” นายชัชชาติ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้จะเป็นปีแรกที่มีการเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเต็มที่ 100% จากเดิมที่รัฐบาลให้จัดเก็บในอัตรา 10% ซึ่ง กทม.คงต้องเร่งรัดการจัดเก็บ เพราะเป็นรายได้หลัก
ด้านความคืบหน้าการแก้ปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียวนั้น ในวันที่ 17 มิ.ย.จะมีการหารือของ working group ระหว่างกระทรวงคมนาคมและกทม. เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและแนวคิดกัน
“ มติ ครม.เดิมให้คมนาคมวิเคราะห์ข้อมูล เพราะคมนาคมมีรถไฟฟ้าหลายสายดูแลอยู่ มีผู้เชี่ยวชาญเยอะ ขณะที่กทม.ทำสายสีเขียวสายเดียวทำให้ไม่มีตัวเลขเปรียบเทียบ ก็เอาข้อมูลมาคุยกัน ” นายชัชติ กล่าว
สำหรับสถานการณ์โควิด-19 ของ กทม.ขณะนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อดีขึ้นแล้ว ซึ่งจากการจัดงาน Pride Month และ ดนตรีในสวนที่ผ่านมาก็ไม่มีคลัสเตอร์ผู้ติดเชื้อเกิดขึ้น จึงจะมีการเสนอศูนย์บริหารสถานการณโควิด-19 หรือ ศบค.ชุดใหญ่ในวันที่ 17 มิ.ย.พิจารณาถอดหน้ากากอนามัยในพื้นที่สาธารณะได้ แต่ไม่รวมในสนามกีฬาเพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชนได้ใช้ชีวิตอย่างปกติได้มากขึ้น
ในส่วนของกัญชาเสรี ส่วนตัวค่อนข้างกังวล หลังพบผู้ป่วยและเสียชีวิตจากการใช้กัญชา และมีแนวคิดจะออกร่างประกาศให้โรงเรียนสังกัดกทม.ปลอดกัญชา แต่คงต้องขอตรวจสอบเรื่องของกฎหมายก่อน
นายชัชชาติ ยังกล่าวว่า วันอาทิตย์ที่ 19 มิ.ย.จะเริ่มโครงการผู้ว่าสัญจร โดยจะเริ่มที่พื้นที่เขตคลองเตยก่อน เพราะเป็นชุมชนใหญ่ที่มีทั้งตลาด คลอง น้ำเสีย
ส่วนการชุมนุมทางการเมืองที่เริ่มมีความเคลื่อนไหวในข่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น นายชัชชาติ กล่าวว่า มีแนวคิดในการจัดพื้นที่ชุมนุมเป็นทางเลือกในการออกมาแสดงความคิดเห็น อาทิ ลานคนเมือง สนามกีฬา เป็นต้น เนื่องจาก กทม.เป็นหน่วยงานที่ต้องดูแลทั้งคนที่มาชุมนุมและผู้ที่ไม่ชุนนุม ในเรื่องความปลอดภัย การจราจร ขยะ แต่การดูแลสถานการณ์การชุมนุมคงเป็นหน้าที่ของหน่วยงานความมั่นคง พร้อมยืนยันว่าจุดยืนของกทม.ไม่สนับสนุนความรุนแรง
ขอบคุณข้อมูล : ฐานเศรษฐกิจ