ความรุนแรงในกรุงโคลอมโบเมืองหลวงตลอดวันเมื่อวานนี้ เริ่มจากผู้สนับสนุนรัฐบาลปะทะกับกลุ่มผู้ประท้วง ที่พยายามบุกบ้านพักประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และปะทะกับผู้ประท้วงที่ด้านนอกทำเนียบประธานาธิบดี ทำให้ตำรวจต้องใช้แก๊สน้ำตาและฉีดน้ำเข้าสลาย ผู้ประท้วงปักหลักชุมนุมที่ทำเนียบประธานาธิบดีตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย. เพื่อขับไล่ประธานาธิบดีโคตาบายา ราชปักษา สืบเนื่องจากการบริหารล้มเหลว ทำให้เผชิญวิกฤตเศรษฐกิจครั้งเลวร้ายที่สุดของประเทศ นับตั้งแต่ได้รับเอกราช
แม้การปะทะกันครั้งแรกระหว่างผู้สนับสนุนและต่อต้านรัฐบาลเมื่อวาน ทำให้นายกรัฐมนตรีมหินทา ราชปักษา ยอมลาออกจากตำแหน่ง แต่ยังไม่อาจสร้างความพอใจให้แก่ผู้ประท้วงที่อยากให้ประธานาธิบดีโคตาบายา น้องชายลาออกด้วย ผู้ประท้วงหันไปพุ่งเป้านักการเมืองฝ่ายรัฐบาล รวมถึงล้อมรถของ ส.ส.คนหนึ่ง และ ส.ส.ยิงใส่ฝูงชนทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน ก่อนหลบหนีไปและยิงตัวเองเสียชีวิต
นอกจากนี้ในช่วงดึก ผู้ประท้วงทั่วประเทศตระเวนเผาทำลายบ้านพักของตระกูลราชปักษา รัฐมนตรี และส.ส. รวมถึงบ้านที่ถูกปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์ของตระกูลราชปักษา ในบ้านเกิดของครอบครัวทางภาคใต้ของประเทศ และพื้นที่รอบบ้านพักประจำตำแหน่งของประธานาธิบดีในกรุงโคลอมโบก็ถูกเผาวอด กลุ่มชายฉกรรจ์ถือท่อนไม้และเหล็กตั้งเครื่องกีดขวางถนน ในเส้นทางขาเข้าและออกจากสนามบินในกรุงโคลอมโบอีกด้วย
เหตุรุนแรงตลอดวานนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย รวมถึง ส.ส.พรรครัฐบาล 1 คน และมีผู้บาดเจ็บเกือบ 200 คน และทางการขยายการประกาศเคอร์ฟิวทั่วประเทศ ไปจนถึงเช้าวันพุธจากกำหนดเดิมสิ้นสุดเช้าวันนี้ ชาวศรีลังกาเริ่มออกมาเดินขบวนประท้วงตั้งแต่กลางเดือน มี.ค. ด้วยความไม่พอใจต่อปัญหาราคาสินค้าพุ่งสูง การขาดแคลนสินค้าทั้งอาหาร ยา และเชื้อเพลิง และการตัดไฟ ก่อนลุกลามเป็นการขับไล่ประธานาธิบดีและตระกูลราชปักษา