ความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของ “แตงโม นิดา” นักแสดงสาวชื่อดัง ซึ่งทางตำรวจแถลงสรุปปิดคดีเมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา พร้อมส่งฟ้องผู้ต้องหา 6 คน ต่อทางอัยการจังหวัดนนทบุรี แต่คนในสังคมยังคาใจหลากหลายประเด็น กระทั่งมีการตีกลับสำนวน ให้สอบสวนประเด็นเพิ่มเติมกว่า 20 ประเด็นนั้น
ล่าสุดวันนี้ (7 พ.ค.) นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของ “แตงโม” เปิดเผยว่า ที่อัยการนนทบุรีส่งสำนวนกลับมาสอบเพิ่ม ไม่ใช่การตีกลับ เพราะการตีกลับ หมายถึงให้ไปทำใหม่ทั้งหมด แต่อันนี้เป็นการสั่งให้สอบเพิ่มประเด็นที่ยังคงสงสัย เพราะเห็นว่าสำนวนไม่สมบูรณ์ ทางกฎหมายเรียกว่าข้อที่ไม่สมบูรณ์
โดยการสอบเพิ่ม ยกตัวอย่างเช่น ตำแหน่งที่ตกเรือ , การประมาท เป็นการประมาทอย่างไร , หรือเรื่องพยานหลักฐานต่างๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ทางอัยการต้องการให้มีความชัดเจน เพื่อเวลาสั่งฟ้อง จะได้มีหลักฐานที่มัดแน่น ดิ้นแล้วไม่หลุด
สำหรับประเด็น 20 ข้อ ที่อัยการสั่งให้สอบเพิ่ม คิดว่าคงเป็นประเด็นเรื่องพยานหลักฐานไปทำลายอย่างไร , ประเด็นการตรวจแอลกอฮอล์ของคนบนเรือ , เรื่องบาดแผลใบพัด , และเรื่องตำแหน่งของคนที่อยู่บนเรือ
“ตำรวจทำงานได้ดีเพียงพออยู่แล้ว แต่อัยการต้องการให้สิ้นข้อสงสัยในทุกเรื่อง ส่วนตัวไม่กังวลใจอะไร ต้องขอบคุณทางอัยการมากกว่า ที่เข้ามาถ่วงดุลในการตรวจสอบทำคดี เชื่อว่าสุดท้ายแล้ว จะสามารถเอาคนผิดมาลงโทษได้”
โดยยอมรับว่า การสอบ 20 ประเด็นเพิ่ม ถือเป็นการสอบที่มากเหมือนกัน เมื่อเทียบกับคดีอื่นๆ ที่ต้องสอบเพิ่มมากขนาดนี้ เป็นเพราะมีผู้เกี่ยวข้องจำนวนมาก แต่ทางอัยการคงไม่เรียกกลุ่มคนที่ออกมาแสดงความคิดเห็นอย่างนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ หรือนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้าไปสอบปากคำเพิ่ม เนื่องจากไม่ใช่คนที่เกี่ยวข้องในคดี
ส่วนประเด็นเรื่องขโมยศพของ “แตงโม” นั้น ตนไม่เคยได้ยินเรื่องนี้ เคยดูแต่ในหนัง แต่ถ้ามีการขโมยศพจริง ก็ให้นำหลักฐานมาแจ้งความ และขอฝากถึงนายอัจฉริยะว่า ถ้ามีหลักฐานอะไร ให้ส่งให้ตนดีกว่า อย่าเอาไปลงยูทูปเลย แค่นี้คนติดตามก็มากพอแล้ว โดยวันนี้จะไปแจ้งความเอาผิดนายอัจฉริยะ ในข้อหาหมิ่นประมาท ที่บอกขับรถเถื่อน ปลอมป้ายทะเบียน ยิ่งเป็นเพื่อนกันต้องจัดหนักๆ หน่อย
เบื้องต้นภายใน 7 วันนี้ จะมีความชัดเจนมาจากตำรวจ ส่วนทาง “แม่แตงโม” ยืนยันว่าจะเผาร่างลูกสาวตามกำหนดการเดิมในวันที่ 24 พ.ค.นี้เช่นเดิม