นายกรัฐมนตรีซู เจิ้ง-ชาง ของไต้หวัน กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ (1 พ.ค.) ว่า แม้รัฐบาลใช้มาตรการควบคุมชายแดนและการกักตัวเข้มงวดเพื่อควบคุมโควิด-19 ไต้หวันยังมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้ โดยเกือบ 75,000 คน ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน แต่กว่า 99% มีอาการเล็กน้อยหรือไม่มีอาการ และมีผู้เสียชีวิตจำนวนน้อย บวกกับมีผู้ได้รับการฉีดวัคซีนสูงมาก รัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการอย่างค่อยเป็นค่อยไป
นายกรัฐมนตรีไต้หวันยังเปรียบเทียบกับสถานการณ์ในจีน ที่ใช้มาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวดเพื่อควบคุมการระบาดในนครเซี่ยงไฮ้ และเพิ่มการควบคุมในกรุงปักกิ่งขณะนี้ โดยเขากล่าวกล่าวระหว่างเยี่ยมศูนย์ควบคุมโรคว่า "เราจะไม่ล็อกดาวน์เมืองต่าง ๆ อย่างโหดร้ายแบบจีน"
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วสำนักงานกิจการไต้หวันของจีน เพิ่งวิจารณ์แนวทางการควบคุมการระบาดของไต้หวันว่าจะทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ขณะนี้ประชาชนในไต้หวันใช้ชีวิตเกือบใกล้เคียงระดับปกติ แม้ยังมีการปิดสถานศึกษาบางแห่ง และรัฐบาลเตรียมผ่อนคลายข้อบังคับการกักตัว
ปัจจุบันผู้เดินทางเข้าไต้หวันทั้งหมดจะต้องกักตัวนาน 10 วัน ขณะที่หลายชาติในเอเชียยกเลิกการกักตัวแล้ว ส่วนศูนย์ควบคุมโรคระบาดกลาง หรือ CECC ของไต้หวัน แถลงเมื่อวันอาทิตย์ว่าไต้หวันมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 17,085 คน และผู้เสียชีวิต 3 ราย ซึ่งจำนวนผู้ติดเชื้อเกิน 10,000 คน ต่อเนื่องเป็นวันที่ 4
ไต้หวันมีผู้ติดเชื้อสะสมรวม 132,955 คน นับจากเริ่มมีการระบาดเมื่อต้นปีที่แล้ว และผู้เสียชีวิตสะสม 868 ราย