เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2565 เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ โดยนายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ พร้อมนายกรจักร ชูทิพย์ ธนารักษ์พื้นที่เชียงใหม่ นัดหมายสื่อมวลชน เดินเลาะตามแนวป่า เขตติดต่อกับสำนักงานโครงการชลประทานเชียงใหม่ ไปตามแนวรั้วของบ้านพักศาลอุทธรณ์ ภาค 5 เพื่อสำรวจพื้นที่เตรียมเข้าฟื้นฟูปลูกป่า ซึ่งทางศาลกำลังอยู่ระหว่างการส่งคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพให้กับกรมธนารักษ์ หลังจากที่มีข้อพิพาทกันมานานกว่า 4 ปี
ขณะเดียวกัน เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ได้มีการแถลงข่าวร่วมกับ นายณัฐดนัย ทรนงค์ชัยศักดิ์ หุ้นส่วนผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เชียงใหม่ เค คอนสตรัคชั่น ( CMK ) เพื่อชี้แจงถึงปัญหาความล่าช้าในการก่อสร้างบ้านพักศาลอุธรณ์ภาค 5 ที่จังหวัดเชียงราย
นายณัฐดนัย ทรนงค์ชัยศักดิ์ หุ้นส่วนผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เชียงใหม่ เค คอนสตรัคชั่น ( CMK ) เปิดเผยว่า หลังจากที่ทาง เชียงใหม่ เค คอนสตรัคชั่น ได้ดำเนินการก่อสร้างศาลอุทธรณ์ภาค 5 และอาคารบ้านพักที่จังหวัดเชียงรายมาตั้งแต่เมื่อปี 2563 โดยการรับช่วงต่อมาจากบริษัท แมกซ์เอนส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมค้า 1 ใน 4 บริษัทที่ทำสัญญากับศาลอุทธรณ์ภาค 5 ในการก่อสร้างบ้านพักอาคารศาลอุทธรภาค 5 และ อาคารบ้านพักที่ เชียงราย
แต่เมื่อมีการส่งมอบงานให้กับศาล ศาลกลับระบุว่าบริษัทต้องจ่ายค่าปรับ เนื่องจากผิดสัญญาการรับช่วงต่อ โดยทางบริษัท แมกซ์เอนส์ จำกัด ไม่ได้แจ้งให้ศาลทราบเป็นลายลักษณ์อักษร ทำให้ เชียงใหม่ เค คอนสตรัคชั่น ขาดสภาพคล่องในการดำเนินการต่อ ทั้งนี้ความผิดเรื่องการจ้างช่วง เกิดจากบริษัท แมกซ์เอนส์ จำกัด ไม่ได้แจ้งศาลว่ามีการจ้างช่วงต่อเป็นลายลักษณ์อักษร ดังนั้นความผิดไม่ได้เกิดจาก เชียงใหม่ เค คอนสตรัคชั่น
อย่างไรก็ตามทาง ได้มีการลงทุนในการก่อสร้างไปแล้วจำนวน 95 ล้านบาท แต่ได้รับค่าจ้างกลับมาเพียง 2,090,000บาทเท่านั้น นอกจากนั้น ยังถูกเรียกค่าปรับเนื่องจากผิดสัญญากรณีไม่แจ้งการจ้างช่วงงานต่อเป็นลายลักษณ์อักษร จากการส่งงานงวดแรกต้องจ่ายค่าปรับ ประมาณ 10 ล้านบาท และ งวดที่ 2 อีก จำนวน 59 ล้านบาท ทำให้ขาดสภาพคล่องอย่างหนัก
ขณะที่ทาง เชียงใหม่ เค คอนสตรัคชั่น ได้ยื่นข้อเสนอและแนวทางแก้ไขปัญหาเพื่อให้การก่อสร้างเดินหน้าไปได้ โดยขอให้ศาลจ่ายเงินค่างวดในส่วนที่จ่ายได้ ทั้งนี้ความผิดเรื่องการจ้างช่วง เกิดจากบริษัทร่วมค้าไม่ได้แจ้งศาลว่ามีการจ้างช่วงต่อเป็นลายลักษณ์อักษร ดังนั้นความผิดไม่ได้เกิดจาก เชียงใหม่ เค คอนสตรัคชั่น ซึ่งหากปัญหานี้ได้รับการแก้ไข ทาง เชียงใหม่ เคคอนสตัคชั่น โดยเร่งด่วน และยืนยันว่า หากปัญหาได้รับการแก้ไข จะสามารถก่อสร้างอาคารและบ้านพักให้แล้วเสร็จได้ภายใน 1 ปี
ด้านนายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ กล่าวว่า จากการเข้าไปสำรวจพื้นที่ป่าบริเวณข้างบ้านพักศาลอุทธรณ์ภาค 5 ได้มีการหารือกับทางธนารักษ์พื้นที่เชียงใหม่ จะมีการทำรั้วกั้น บริเวณบ้านพัก 45 หลัง ก่อนที่เครือข่ายฯ จะเข้าทำการฟื้นฟูปลูกป่า โดยขอให้ศาลดำเนินการคืนพื้นที่ให้กับธนารักษ์พื้นที่เชียงใหม่โดยเร็ว ส่วนวันที่ 29 เมษายน 2565 ทางเครือข่ายอาจจะมีการจัดกิจกรรมรำลึกป่าแหว่ง
ขณะที่ นายกรจักร ชูทิพย์ ธนารักษ์พื้นที่เชียงใหม่ กล่าวว่า ตอนนี้ติดขัดประเด็นเรื่องการรับคืนครุภัณฑ์ จนทำให้การรับคืนสิ่งปลูกสร้างและพื้นที่ล่าช้าออกไป ได้หารือไปยังกรมธนารักษ์เพื่อเร่งรัดพิจารณาเรื่องการรับคืนครุภัณฑ์ว่าจะรับได้หรือไม่ ซึ่งหลังจากรับคืนมาแล้วคงต้องหาวิธีนำไปใช้ต่อ เช่น บริจาคให้กาชาด ส่วนราชการ หรือองค์กรสาธารณะนำไปใช้ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเมื่อรับคืนแล้วก็สามารถนำพื้นที่ไปใช้ตามความประสงค์ของชาวเชียงใหม่ คือการปลูกป่าฟื้นฟูพื้นที่
อย่างไรก็ตามได้ประสานไปยังศาลอุทธรณ์ภาค 5 เพื่อเข้าไปสำรวจพื้นที่บ้านพักทั้ง 45 หลัง ซึ่งมีครุภัณฑ์ที่ต้องบริหารจัดการที่อยู่ในบัญชี จำนวน 1,866 รายการ ซึ่งทางกรมธนารักษ์กำลังพิจารณาข้อกฏหมายเรื่องการรับคืนอสังหาริมทรัพย์ และครุภัณฑ์ เนื่องจากทางกรมฯไม่มีกฏหมายรองรับ หากรับมาแล้วต้องนำมาบริหารจัดการโดยเร็วที่สุด