ว่ากันว่า เป็นคาเฟ่สายมูเตลู ที่ตกแต่งด้วยบรรดาทวยเทพ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ไม่ว่าจะท้าวเวสสุวรรณ พระพิฆเนศ พ่อปู่ฤาษีตาไฟ เจ้าแม่กวนอิม พระนางจามเทวี และกุมารทอง บรรยากาศเหมือนเข้ามาสำนักร่างทรงมิปาน ถือว่าเป็นจุดขายและฉีกแนวของคาเฟ่ในปัจจุบัน
ด้วย “เจี๊ยบ” ณพิชญา อินแสง อดีตพยาบาล ผู้ชื่นชอบในเรื่องสิ่งเร้นลับและมีสัมผัสพิเศษที่มาเหมือนคนอื่นโดยสามารถเห็นวิญญาณมาตั้งแต่อายุ 6 ขวบ แต่ไม่มีใครเชื่อ จึงได้ศึกษาธรรมะ สวดมนต์ นั่งสมาธิ เพื่อกำหนดจิต
เธอย้อนอดีตว่า มักจะฝันว่าคนนั้นจะตายก็ตายจริง หรือช่วงที่ทำหน้าที่เข้าเวรพยาบาล มักจะถูกเพื่อนร่วมงานมองว่าเข้าเวรคราใดจะต้องมีคนตายประจำ เหมือนผู้ป่วยรอเรา เพื่อจะได้สัมผัส และเขาก็จะจากไป
จากจุดแข็งดังกล่าวเธอจึงเป็นที่มาของการเปิดคาเฟ่สายมูเตลู เพื่อให้เป็นแหล่งยึดเหนี่ยวจิตใจ หรือที่เธอจำกัดความว่า นักสร้างแรงบันดาลใจ เนื่องเพราะเธอเคยผ่านช่วงเวลาที่สภาพจิตใจมีปัญหาอย่างหนัก แต่พอมีองค์เทพและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ทำให้ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาได้ อีกทั้งเชื่อว่าร่างกายแข็งแรงอย่างเดียวไม่ได้ จิตใจข้างในต้องแข็งแรงด้วย
“เจี๊ยบ” ณพิชญา เล่าว่าที่ผ่านมา ทำงานเป็นพยาบาล ซึ่งเป็นช่วงชีวิตที่ใช้อยู่กับหลักวิทยาศาสตร์มาโดยตลอด แต่ส่วนตัวเชื่อว่ามีสัมผัสพิเศษที่มาเหมือนใคร กระทั่งถึงจุดอิ่มตัวจากการทำงานเป็นพยาบาลจึงเกษียณตัวเองก่อนกำหนด แล้วนำองค์เทพและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นจุดศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนทางความคิด พร้อมทั้งศึกษาการดูดวงด้วยไพ่ยิปซี โดยร้านนี้เปิดมาได้ประมาณ 1 ปี แล้ว
ก่อนหน้าที่จะเปิดคาเฟ่สายมูเตลู จะมีเพื่อนๆ พี่ๆหรือลูกศิษย์ ที่เคยมาปรึกษากับตนเอง มาหาที่บ้านบ่อยๆ จึงเกิดความคิดทำเคาน์เตอร์กาแฟ เพื่อเอาไว้ต้อนรับคนที่มาหา จากนั้นไปอบรมการทำกาแฟและเครื่องดื่ม จึงได้เปิดเป็นร้านสิริมันตราขึ้นมา เอาไว้เป็นที่พูดคุยของคนที่ชอบสายมูเตลูเหมือนกัน
สำหรับเมนูเครื่องดื่มภายในร้าน 10 % ขายให้คน ส่วนอีก 90% ขายให้เทพ หรือขายให้ลูกค้านำไปถวายให้กับเทพและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยจะจัดเป็นเซต เช่น ท้าวเวสสุวรรณ จะเป็นชากุหลาบ หรือพระพิฆเนศ เป็นน้ำผลไม้ น้ำส้ม น้ำอ้อย หรือนม และน้ำแดงโซดาบูชากุมารทอง
“มาร้านเรา เหมือนไม่ได้มาร้านกาแฟ ไม่ได้มาสำนักทรงเจ้า เหมือนมาพัก มี่คนพูดคุย มีคนรับฟังปัญหา เราจะเป็นพลังบวกให้กับเขา”
นอกจากนี้ยังมีไฮไลท์สำคัญของร้านที่ห้ามพลาด คือ “สะพานบุญ” หรือการทำบุญบริจาคผ้าดิบห่อศพในราคาผืนละ 99 บาท ที่ถือว่าเป็นการทำบุญสะเดาะเคราะห์ และยังเป็นการแสดงออกถึงจิตอาสา เพราะผ้าดิบทุกผืนเธอจะนำไปบริจาคให้กับโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ที่เธอเคยทำงานเพื่อใช้ในการห่อศพของโรงพยาบาล
“การทำบุญด้วยผ้าดิบห่อศพ ที่ทางร้านจะเลือกใช้ผ้าดิบอย่างดี เพื่อให้อย่างน้อยคนที่เสียชีวิตในช่วงวาระสุดท้ายของชีวิตจะได้มีผ้าดีๆห่อร่างไว้ ด้วยความที่เป็นพยาบาล เลยรู้ว่าทุกวันนี้ผ้าดิบในโรงพยาบาลยังมีความขาดแคลน จึงเป็นอีกไอเดียที่มาทำการทำบุญบริจาคผ้าดิบห่อศพ ในแต่ละเดือนจะมียอดทำบุญอยู่ที่ 200 – 300 ผืน มีรายได้กว่า 30,000 บาทต่อเดือน” นางสาวณพิชญา กล่าว
กระนั้นก็ตาม หากผู้จิตศรัทธาไม่สะดวกมาที่ร้าน ยังสามารถทำบุญผ่านทางออนไลน์ได้ โดยที่ทางร้านจะรับทำบุญสักการะผ่านทางออนไลน์ ทางร้านจะถ่ายรูปหรือคลิปวิดีโอ ส่งให้ลูกค้าดูรวมถึงบทสวดตั้งจิตอธิฐาน ผ่านทางออนไลน์ นับเป็นการทำบุญสมัยใหม่ และยังให้คำปรึกษากับลูกค้าผ่านทางออนไลน์อีกด้วย
สำหรับร้านสิริมันตรา ตั้งอยู่ที่ถนนจามเทวี ซอย 9 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ลำพูน ปากซอยจะเป็นวัดจามเทวีเลี้ยงรถเข้ามาแล้วตรงไปประมาณ 350 เมตรร้านอยู่ซ้ายมือ ติดกับจามเทวี เรสซิเดนซ์ สามารถติดตามทางออนไลน์ได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก “สิริมันตรา” หรือโทรเบอร์ 084-3385018