"หมอเหรียญทอง" ฟาดต่อ ปมกู้ภัยถูกแซะวินิจฉัยศพเหมือนหมอนิติเวชได้หรือไม่

     ออกมาฟาดสองวันติด ๆ สำหรับ พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ กรณี ผศ.นพ.สมิทธิ์ ศรีสนธิ์ แพทย์นิติเวชศาสตร์ รพ.รามาธิบดี ในฐานะนายกสมาคมแพทย์นิติเวชแห่งประเทศไทย ออกโรงเตือนอาสาสมัครกู้ภัยพูดอธิบายวินิจฉัยเกี่ยวกับศพเหมือนอย่างเป็นแพทย์นิติเวช  พร้อมกับตำหนินักข่าวสัมภาษณ์ผลการตรวจศพกับอาสากู้ภัย จนหวั่นว่าจะบานปลายกลายเป็นศึกเสื้อกราวน์

 

     โดยวันนี้ (13 มี.ค.) พล.ต.นพ.เหรียญทอง ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เหรียญทอง แน่นหนา ระบุว่า 

 

     เนื่องจากโพสต์ของ นพ.สมิทธิ์ หมอนิติเวชศาสตร์ รพ.รามาธิบดี ที่เป็นถึง นายกสมาคมแพทย์นิติเวชศาสตร์แห่งประเทศไทย ทั้งยังเป็นถึงกรรมการแพทยสภาอีกด้วยได้สร้างความไม่พอใจแก่ประชาชนจำนวนมากเพราะเป็นโพสต์ที่ตั้งคำถามและตำหนิอาสาสมัครกู้ภัย ทำให้มีประชาชนจำนวนมากไม่พอใจ ดังนั้นผมขอตอบคำถามของ นพ.สมิทธิ์ ที่ถามผ่านสาธารณะดังต่อไปนี้
 

 

1.คำถามที่ 1 ของ นพ.สมิทธิ์ ถามผ่านสาธารณะว่า “เนื่องจากผมมีเพื่อนใน FB เป็นกู้ภัย อยากถามว่าอาสาสมัครกู้ภัยมีจริยธรรมของอาสาสมัครกู้ภัยไหมครับ" 

 

     ผมขอตอบคำถามที่ 1 ของ นพ.สมิทธิ์ ว่า อาสาสมัครกู้ภัยเป็นบุคคลผู้เสียสละเยี่ยงวีรบุรุษ พวกเขาต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อกู้ภัย กู้ชีวิต ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทุกสถานการณ์ ทั้งต้องนอนกลางดิน กินกลางทราย ตรากตรำลำบากและเสี่ยงชีวิต ไม่มีวันเวลาที่แน่นอน ต้องพร้อมปฏิบัติการตลอดเวลา บุคคลที่มีจิตอาสาขนาดนี้ คุณหมอสมิทธิ์ยังจะกล้าถามคำถามโง่ ๆ ไปในทางดูแคลนอีกหรือครับว่า อาสาสมัครกู้ภัยมีจริยธรรมของอาสาสมัครกู้ภัยไหม...เป็นคำถามที่สะท้อนตัวตนของคุณหมอมากเลยนะครับว่าเป็นคนอย่างไร เป็นถึงกรรมการแพทยสภาที่เคยประกาศจะจัดการหมอไร้จริยธรรมอย่างผมแต่กลับไม่ส่องกระจกสำรวจตัวเองว่ามันทุเรศแค่ไหน
 

 

2.คำถามที่ 2 ของ นพ.สมิทธิ์ ถามผ่านสาธารณะว่า “เห็นอาสาท่านหนึ่งพูดอธิบายวินิจฉัยเกี่ยวกับศพเหมือนอย่างเป็นแพทย์นิติเวช มันทำได้ไหมครับ ถ้าทำไม่ได้ อาสาท่านนั้นจะถูกลงโทษมั้ยครับ"

 

     ผมขอตอบคำถามที่ 2 ของ นพ.สมิทธิ์ ว่า อาสาท่านนั้นคงจะหมายถึงคุณเอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ ผมขอเรียนให้ทราบทั่วกันว่าเพียงแค่การพูดหรืออธิบายวินิจฉัยเกี่ยวกับศพด้วยความบริสุทธิ์ใจของคุณเอกพันธ์นั้นไม่ผิดครับ ทั้งยังอาจเป็นประโยชน์ในการสืบสวนสอบสวนแสวงหาความจริงแก่นิติเวชแพทย์และเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียด้วยซ้ำ คุณเอกพันธ์ไม่ได้ทำการผ่าตัดชันสูตรพลิกศพเอง หรือไม่ได้ทำการออกหลักฐานทางการแพทย์เยี่ยงนิติเวชแพทย์นี่ครับ แล้วคุณเอกพันธ์จะทำตนเสมือนแพทย์นิติเวชฯ ได้อย่างไร คุณเอกพันธ์ไม่ได้ทำผิดกฎหมายอะไรเลย แล้วทำไมคุณเอกพันธ์จะต้องถูกลงโทษด้วยกฎหมายอะไรกันอีกล่ะครับ

 

...เป็นคำถามที่ไม่น่าเชื่อเลยนะครับว่าจะมาจากนายกสมาคมแพทย์นิติเวชศาสตร์แห่งประเทศไทย ทั้งยังเป็นถึงกรรมการแพทยสภาอีกด้วย...กรุณาใช้สมองคิดก่อนถามด้วย มิฉะนั้นมันจะกลายเป็นไอ้โง่ เสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพแพทย์นะครับ อย่าลืมไปร้องเรียนแพทยสภาให้จัดการตัวคุณหมอเองเหมือนที่จัดการผมเสียด้วย...ผมรู้สึกอายแทนสมาคมแพทย์นิติเวชศาสตร์แห่งประเทศไทยที่มีนายกสมาคมฯ โง่ ๆอย่างนี้ และหมายรวมถึงแพทยสภาด้วยนะครับที่มีกรรมการแพทยสภาที่มีมาตรฐานต่ำอย่างนี้ 

 

3. คำถามที่ 3 ของ นพ.สมิทธิ์ ถามผ่านสาธารณะว่า “...อีกข้อ ขอตำหนินักข่าวที่ไปทำข่าวเรื่องนี้กับอาสาท่านนั้นด้วย คือ ท่านคิดว่าการสัมภาษณ์ผลการตรวจศพควรทำกับอาสาฯ มากกว่าแพทย์นิติเวชที่ผ่าเหรอครับ"

 

     ผมขอตอบคำถามที่ 3 ของ นพ.สมิทธิ์ ว่า คุณถือดีอะไรไปตำหนินักข่าวอย่างนี้ นักข่าวจะสัมภาษณ์ใครก็เป็นเสรีภาพของเขาในวิชาชีพสื่อเพื่อการแสวงหาข่าวสาร การที่นักข่าวไม่สัมภาษณ์แพทย์นิติเวชที่ผ่าก็เป็นดุลพินิจของนักข่าว คุณต้องไปทบทวนแพทย์นิติเวชฯด้วยกันเองเสียด้วยว่าแพทย์นิติเวชฯ พร้อมที่จะให้นักข่าวสัมภาษณ์จริงหรือไม่ เท่าที่เห็นก็มีแต่บ่ายเบี่ยงไม่ให้สัมภาษณ์ หากให้สัมภาษณ์ก็ไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะเป็นความจำเป็นทางคดี นักข่าวก็ไม่คิดจะสัมภาษณ์กับแพทย์นิติเวชฯสิครับ ในเมื่อพวกคุณมันพึ่งไม่ได้ นักข่าวเขาก็ไม่สัมภาษณ์พวกคุณไง...จริง ๆ แล้วนักข่าวอยากสัมภาษณ์แพทย์นิติเวชฯ ที่ผ่าจะตายไป 

 

4. ข้อความสุดท้ายของ นพ.สมิทธิ์ ผ่านสาธารณะว่า “จริง ๆ ผมเคารพอาสามาก ๆ เลยนะครับ ผมสนิทกับหลายคนมาก ๆ อาสาเจอผมก็จะพูดคุยกันดีมาก เพราะผมออกที่เกิดเหตุท้องที่ในรามาฯ มาเกินสิบปีแล้ว และผมขอบคุณอาสาหลาย ๆ คนเลยครับที่เวลาไปตรวจที่เกิดเหตุช่วยในการตรวจศพและขนศพออกมา บางเคสก็ยากลำบากมากจริง ๆ นับถือความมีน้ำใจในหลาย ๆ ครั้ง แต่ผมไม่เห็นด้วยกับอาสาที่ทำแบบนี้เลยครับ อย่างไงก็ฝากช่วย ๆ เตือนกันหน่อยนะครับ”

 

     ผมขอแสดงความเห็นต่อข้อความสุดท้ายของ นพ.สมิทธิ์ว่า คุณเพิ่งจะออกที่เกิดเหตุท้องที่ในรามาฯ มาเกินสิบปี แต่คุณเอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ ไม่ได้ออกแค่ที่เกิดเหตุในรามาฯ เท่านั้นนะครับ คุณเอกพันธ์ ออกไปทุกพื้นที่ประสบภัยทั่วราชอาณาจักรในทุกๆสาธารณภัยเสียด้วยซ้ำ คุณมันยังแค่หมอหนุ่ม ๆ เพิ่งจะเหยียบขี้ไก่ฝ่อได้ไม่กี่ปีนี้เอง แล้วการที่คุณมาบอกว่าเคารพอาสามาก ๆ ...นับถือความมีน้ำใจ...บลา ๆๆ นั้น

 

     ผมขอเรียนว่ามันดัดจริตมากนะครับ คุณดูแคลนจริธรรมของอาสาสมัครกู้ภัยแล้วมาตบท้ายว่าคุณเคารพนับถืออาสาสมัครกู้ภัยนั้น มันเป็นการ 'ตบหัวลูบหลัง' คุณเป็นคนที่ไม่จริงใจเอาเสียเลย คบไม่ได้นะครับ หน้าไหว้หลังหลอกกันชัด ๆ...อาสาสมัครกู้ภัยไม่ได้โง่ ไม่ได้บ้าคำสรรเสริญเยินยออย่างไม่จริงใจจากคุณหมอย่างคุณหรอกครับ

 

     สุดท้ายนี้ผมขอคารวะและให้กำลังใจต่อคุณเอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ และอาสาสมัครกู้ภัยทุกท่าน ท่านทั้งหลาย คือ วีรบุรุษของทหารหมอผู้ไร้เกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพแพทย์และจริยธรรมอย่างผม

 

พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา

ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ

13 มี.ค.65 เวลา 9.49 น.

 

หมายเหตุ คุณเอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ กับผม ไม่เคยพบปะ ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวนะครับ เพียงแต่ผมติดตามผลงานความทุ่มเทและเสียสละของคุณเอกพันธ์มานาน