ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีฉ้อโกงประชาชน หมายเลขดำ อ.3172/2562 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ฟ้องพล.อ.สมโภชน์ หรือเสธ.ไบ๋ เงินเจริญ อายุ 66 ปี อดีตที่ปรึกษาแม่ทัพภาคที่ 4 และอดีตผู้ช่วยหัวหน้าเสนาธิการ รมว.กลาโหม นางชุติกาญจน์ หรือกาญจนา บุญมี และ น.ส.ธนัญกัลย์ หรือฟ้า นันทดำรงวัฒน์ เป็นจำเลยที่ 1-3 ตามลำดับ ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน
อัยการโจทก์ระบุฟ้องความผิดสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 28 มี.ค. - 20 ก.ค.61 ต่อเนื่องกัน จำเลยทั้งสามกับพวกที่ยังหลบหนี ได้ร่วมกันหลอกลวง หจก.ไพศาลการค้า ผู้เสียหายที่ 1 โดยอ้างว่ามี "โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในหน่วยงานภาครัฐ(หลอดไฟ LED) ซึ่งเป็นโครงการของกรมพัฒนาพลังงานทดแทน ก.พลังงาน
โดย พล.อ.สมโภชน์ จำเลยที่ 1 แนะนำตัวเองว่า เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) และแจ้งว่า ผู้เสียหายที่ 1 สามารถรับงานตามโครงการได้ โรงเรียนในพื้นที่ จ.ขอนแก่นงบประมาณโรงเรียนละไม่เกิน 5 แสนบาทโดยผู้เสียหายต้องจ่ายค่าจองงานและค่าดำเนินการ30% โดยจ่ายเงินสดจำนวน 5 แสนบาทก่อน และค่าติดตั้งหลอดไฟ LED รวม 496โรงเรียน ๆละ 939,000 บาท โดยผู้เสียหายจ่ายค่าดำเนินการต่างๆให้พวกจำเลย รวม 31,261,300 บาท ซึ่งโครงการดังกล่าวไม่มีอยู่จริงล้วนเป็นความเท็จทั้งสิ้น อีกทั้งจำเลยที่ 1 ก็ไม่ได้เป็น สนช.แต่อย่างใด
อัยการยังระบุฟ้องอีกว่า นอกจากนี้เมื่อระหว่างวันที่ 19 ธ.ค.60 -21ส.ค.61 ต่อเนื่องจำเลยทั้งสามยังได้หลอกลวงบริษัท โซล่าเซลล์ จำกัด ผู้เสียหายที่ 2 ว่า มีโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในหน่วยงานของรัฐ(ติดตั้งแผงโซล่า เซลล์) ให้กับ100 โรงเรียนใน จ.เลย ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อจ่ายเงินจำนวน 12,700,000 บาทให้แก่พวกจำเลย ซึ่งเป็นโครงการเท็จทั้งสิ้น รวมมูลค่าเสียหายความเสียหายทั้ง 2 ราย รวม 43,961,300 บาท ขอให้ลงโทษพวกจำเลยตามกฎหมายด้วย
ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานที่ทั้งสองฝ่ายนำสืบหักล้างกันแล้ว"พิพากษาว่า จำเลยทั้งสามมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341ประกอบมาตรา 83 การกระทำของจำเลยที่ 1 และที่ 3 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุกจำเลยที่1และที่ 3 กระทงละ 1 ปี 6 เดือน จำคุกจำเลยที่ 2 รวม 1 กระทง ๆละ 1 ปี 6 เดือน ทางนำสืบของจำเลยทั้งสามเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุกจำเลยที่ 1 และที่ 3 กระทงละ 1 ปี รวม 2 กระทงเป็นจำคุกจำเลยที่ 1 และ 3 คนละ 2 ปี ส่วนจำเลยที่ 2 จำคุก 1 ปี ให้นับโทษจำคุกของจำเลยที่ 1ในคดีนี้ต่อจากโทษจำคุกของจำเลยที่ 1 ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ.1026/2562 ของศาลแขวงดอนเมือง ให้จำเลยทั้งสามคืนหรือชดใช้เงินจำนวน 28,404,477.40 บาท แก่ผู้เสียหายที่ 1 และให้จำเลยที่ 1 และที่ 3 คืนหรือชดใช้เงิน 12,700,000 บาท แก่ผู้เสียหายที่ 2 ข้อหาอื่นให้ยก