ตลอดเวลาที่ผ่านมาความอ่อนแอของรัฐบาลมีให้เห็นอย่างต่อเนื่องทั้งเรื่องของส.ส. เรื่องการบริหารราชการแผ่นดิน แต่อีกด้านหนึ่งฝ่ายค้านเริ่มเห็นรอยร้าวที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เหมือนเป็นฝ่ายค้านที่แข่งกันเอง หนักกว่าพรรคร่วมรัฐบาล หักเหลี่ยมเฉือนคมกัน
เป็นการหักเหลี่ยมเฉือนคมระหว่างพรรคฝ่ายค้าน 2 พรรค ที่แย่งชิงฐานคะแนนกันว่าด้วยเรื่องกฎหมายหลากหลายรูปแบบ การหักเหลี่ยมเฉือนคมกันในสภาฯ ส่งผลให้รัฐบาลที่ทำหน้าที่กำกับดูแล ส.ส. เกิดแรงเหวี่ยงกระแทกไปที่รัฐบาลเช่นเดียวกัน
แต่ต้องเข้าใจบริบทอย่างหนึ่งถ้าพรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์ นั่นหมายความว่าพรรคก้าวไกลต้องหายไปเยอะ ถ้าพรรคก้าวไกลได้เสียงข้างมาก พรรคเพื่อไทยที่ต้องการจะแลนด์สไลด์นั้นไม่สำเร็จ คะแนนอยู่ในฐานเดียวกันไม่แปลกที่ฝ่ายค้านจะซัดกันเอง
"การซัดกันเอง" ล้วนแล้วแต่เป็นเกมที่ชิงไหว ชิงพริบ ซึ่งกันและกันในพรรคฝ่ายค้าน แต่ขณะเดียวกันผลจากแรงกระแทกในสภาฯ ส่งผลให้สภาล่ม
เมื่อสภาล่มจึงไปทำลายความชอบธรรมของสภาฯ และรัฐบาล
ส.ส.คนไหนไม่แสดงตน พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต
สถิตินับองค์ประชุม
ปัจจุบันเงินเบี้ยเลี้ยง ส.ส.และทีมงาน ในหนึ่งวันจ่าย 4.1 ล้าน เพราะฉะนั้นการทำหน้าที่ของส.ส. เป็นหัวใจสำคัญ
ถ้าสภาล่ม ณ เวลานี้ แสดงว่าวาระต่อไปปิดฉากใช่หรือไม่ ? ก้าวไกลบอกว่าวาระต่อไปเป็นเรื่องเกี่ยวกับพ.ร.บ.บำนาญ 3,000 บาท ซึ่งเป็นนโยบายของพรรคก้าวไกล ตัดขาตอนนี้เพื่อไม่ให้มีการพิจารณาในวาระต่อไป
"สนิมมันเกิดจากเนื้อในตน" ในส่วนของรัฐบาลที่ทำหน้าที่ดูแล ส.ส. และการประชุมสภาฯ แต่บรรยากาศที่เห็นข้างในของพรรคฝ่ายค้านก็สอยกันเละเทะ เพราะคะแนนนิยมในอีกฝั่งลดลง "เพื่อไทย และ ก้าวไกล" จึงกลายเป็นคู่ขนานในฝ่ายค้าน
กฎหมายทั้งสองฉบับล้วนแล้วแต่เป็นหัวใจสำคัญที่เกี่ยวพันกัน
พรรคก้าวไกล
พ.ร.บ.บำนาญพื้นฐานแห่งชาติหรือบำนาญ 3,000 บาท - ประมาณ 11 ล้านคน
พรรคเพื่อไทย
พ.ร.บ.คลองไทย - หัวใจคือภาคใต้
รังสิมันต์ โรม ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อและรองเลขาธิการพรรคก้าวไกล บอกว่า วันนี้ที่มีรายงานคลองไทย เข้าสภา มติพรรคร่วมกำหนดว่า ห้ามแสดงตนเพื่อทดสอบองค์ประชุมของรัฐบาล ส.ส.ก้าวไกลส่วนใหญ่ยึดตามนั้นแต่ปรากฎว่าเป็นเพื่อไทยไม่ปฏิบัติตามมติ ก้าวไกล จึงตัดสินใจว่าเราจะยืนยันจุดยืนของเรา คือ การแสดงตน ในวาระที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน
สถานการณ์ตอนนี้ในระบบการทำงานของกลไกการบริหารราชการแผ่นดิน รัฐบาลก็ปั่นป่วน สภาฯ ยิ่งปั่นป่วนหนัก สถานการณ์เช่นนี้การบริหารจัดการประเทศจะเดินไปอย่างไร
นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย บอกว่า พรรคเพื่อไทย ปฏิบัติตามมติวิปฝ่ายค้านไม่แสดงตน แต่พรรคก้าวไกล ต้องการให้สภาฯ เดินหน้า พิจารณารายงานบำนาญพื้นฐานแห่งชาติหรือ บำนาญ 3,000 บาท ยอมรับว่า อาจเกิดจากความสับสนว่าเรื่องใดสำคัญหรือไม่สำคัญ เพราะเน้นแค่หลักการใหญ่ที่ต้องเห็นพ้องต้องกัน ส่วนกฎหมายอื่น ๆ นั้น ฝ่ายค้าน เคารพสิทธิ์ของแต่ละพรรคการเมืองและไม่มีอะไรที่เป็นปัญหาขัดแย้ง
ในแง่ของการทำงาน ถามว่าสภาฯ ที่ล่มเป็นความรับผิดชอบของใคร ?
ชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา บอกว่า ตามหลักแล้วคือต้องร่วมรับผิดชอบทั้งสองฝ่าย แต่ระบบรัฐสภาคนที่จะเป็นรัฐบาลได้ต้องมีเสียงข้างมาก ดังนั้น รัฐบาลที่มีเสียงข้างมากก็ต้องดูแลองค์ประชุมของตัวเองด้วย
แต่เมื่อมีการลงมติเหมือนแก้แค้นกัน
แสดงว่าสภาในปัจจุบันมีปัญหาในกลไก ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของรัฐบาล ที่ส.ส. มาประชุมในสภาฯ น้อยแต่กินเงินเดือนเหมือนเดิม บางคนเข้าประชุมพรรคของตัวเองมากกว่าทำหน้าที่ในสภาฯ บางคนอยู่ในสภาฯ แต่ไม่แสดงตน
หน้าที่ของส.ส.-พรรคร่วมรัฐบาล
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
พรรคร่วมรัฐบาล
แต่ปัญหาคือทั้ง 2 องค์ประกอบไม่ทำงาน กลไกของสภาฯ ในปัจจุบัน เป็นกลไกที่เป็นเป็ดง่อย แล้วประชาชนจะหันหน้าไปพึ่งใคร
ที่มา : เนชั่นอินไซต์ บากบั่น บุญเลิศ วีระศักดิ์ พงศ์อักษร