ถือเป็นข่าวช็อกวงการ “ทนายความ” ภายหลังสภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ มีหนังสือสั่งพักใบอนุญาตนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความชื่อดัง เป็นเวลา 1 ปี ฐานผิดมรรยาททนายความ แต่ยังสามารถให้ความเห็นด้านกฎหมายได้
ล่าสุดนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความชื่อดัง กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวผ่านไลฟ์สดเพจเฟซบุ๊ก “ทนายคลายทุกข์” โดยะรบุตอนหนึ่งว่า ทางสมาคมทนายความ บอกว่า “ทนายรณณรงค์” กระทำผิดตามข้อบังคับมรรยาททนายความ แบ่งเป็นข้อบังคับที่ 10 (2) และข้อ 12 (1) (2) รวมถึงข้อ 18 ฉะนั้นเป็นการกระทำความผิดถึง 3 ฐานความผิด
ส่วนรายละเอียดข้อบังคับที่กระทำความผิด หากดูรายละเอียดตั้งแต่ฐานความผิดที่ 1 ตามข้อบังคับ 10.2 ที่ระบุว่า “ใช้อุบายอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อจูงใจให้ผู้ใดมอบคดีให้ ว่าต่างแก้ต่าง” หมายถึงใช้อุบายให้ลูกความเข้ามาว่าจ้าง
ขณะที่ (2) ระบุว่า “อวดอ้างว่าตนมีความรู้ยิ่งกว่าทนายความคนอื่น” ตรงนี้ตนเองไม่รู้ว่าเขาไปอวดอ้างยังไง แต่อยากจะยกตัวอย่างอื่นๆ เช่น บอกว่าผมเก่งกว่า ทนายเดชาสู้ผมไม่ได้หรอก หรือผมแจ๋วกว่า พรรคพวกเยอะ เป็นต้น
สำหรับฐานความผิดที่ 2 ข้อบังคับที่ 12 ระบุว่า “กระทำการอันอาจให้เสื่อมเสียประโยชน์ต่อลูกความ ทำให้ลูกความเสียผลปรโยชน์” โดย (1) มีข้อความว่า “จงใจขาดนัด หรือทอดทิ้งคดี” ตรงนี้หมายถึงว่าอาจไม่ได้ไปศาล หรือรับงานมาแล้วทิ้ง ตรงนี้ตนเองไม่ทราบข้อเท็จจริงว่ามีการทิ้งคดียังไง
ทั้งนี้ใน (2) ระบุว่า “จงใจละเว้นหน้าที่ ที่ควรทำให้ลูกความ หรือปิดบังข้อความ ที่ควรแจ้งให้ลูกความทราบ ทำให้ลูกความได้รับความเสียหาย”
ขณะที่ฐานความผิดที่ 3 ผิดข้อบังคับที่ 18 ระบุข้อความว่า “การประพฤติตน เป็นการฝ่าฝืนศีลธรรมอันดี หรือประพฤติตน อันเป็นการเสื่อมเสียต่อศักดิ์ศรี และเกียรติคุณของทนายความ” หมายถึงประพฤติไม่ดีต่ออาชีพทนายความ ทำให้ทนายความเสียหาย
เบื้องต้น “ทนายรณณรงค์” ถูกพักใบอนุญาต 2 คดี เป็นเวลา 1 ปี สำนวนแรกตั้งแต่ 1 ก.ย.2564-31 ส.ค.2565 และอีกสำนวน ตั้งแต่ 1 ก.ย.2564-31 มี.ค.2565 ฉะนั้นตอนนี้เจ้าตัวไม่มีสิทธิ์รับจ้างว่าความได้
ส่วนหลังจากนี้ ถ้ามีคนร้องเรียน "ทนายรณณรงค์" แล้วพบว่าทำผิดมรรยาททนายอีก ก็ต้องถูกพักใบอนุญาตต่อ โดยส่วนตัวยื่นสอบมรรยาททนายความชื่อดังรายนี้อีก 2 คดี ซึ่งอยู่ระหว่างรอผลสอบสวน ซึ่งทุกอย่างต้องว่ากันตามพยานหลักฐาน
ทั้งนี้ในกลุ่มของ "ทนายรณณรงค์" มีทนายอีกคน ถูกพักใบอนุญาตไป 2 ปี แต่ตอนนี้กลับมาทำหน้าที่ได้แล้ว และยังมี "ทนายดัง" อีกคน ที่ตนเองยื่นสอบมรรยาทอยู่ 2-3 คดี