ตามที่ตัวแทนกลุ่มชาวบ้านอนุรักษ์ป่าชายเลนบ้านเจ๊ะหลี หมู่ 3 ต.เกาะลันตาใหญ่อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ ร้องเรียนให้ตรวจสอบการออกโฉนดที่ดินบนเกาะนุ้ยนอก ต.เกาะลันตาใหญ่ ทั้งเกาะ เนื้อที่ 5 ไร่ 2.3 ตารางวา โดยปัจจุบัน มีชื่อข้าราชการระดับสูง กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI เป็นผู้ครอบครองโฉนดรายล่าสุด และมีการประกาศขายทางเฟซบุ๊กไร่ละ 20 ล้านบาท ทั้งเกาะ 100 ล้านบาท แต่จากการตรวจสอบของนายอำเภอเกาะลันตา พบว่า โฉนดออกมาจากส.ค.1 จริง ตั้งอยู่หมู่ 4 แต่เกาะนุ้ยนอก อยู่ในท้องที่หมู่ 3 ส่วนกรมที่ดิน ได้แจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและตั้งกรรมการเพิกถอนโฉนดเกาะนุ้ยนอก อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ แล้ว
นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (เลขาธิการ ป.ป.ช.) เปิดเผยเนชั่น ออนไลน์ ว่า ตามที่ชาวบ้านเจ๊ะหลี ได้แจ้งไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดกระบี่ (ป.ป.ช.กระบี่) ให้ตรวจสอบการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบของเจ้าหน้าที่ผู้ออกโฉนดที่ดินเกาะนุ้ยนอกและมีการสืบสวนข้อเท็จจริง จาก ป.ป.ช.กระบี่ เสนอมาที่ส่วนกลางแล้วนั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นว่าเรื่องนี้มีมูล สมควรตั้งอนุกรรมการไต่สวน โดยมอบให้ป.ป.ช.กระบี่ ดำเนินการเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง รวมถึงผู้ครอบครองโฉนดรายล่าสุดซึ่งเป็นข้าราชการ DSI มีส่วนรู้เห็นกับขบวนการออกโฉนดมิชอบ หรือไม่
ส่วนกรณีชาวบ้านพบว่ามีกลุ่มชายฉกรรจ์ ไม่ทราบจำนวน ขึ้นไปแผ้วถางป่า และต้นไม้บนเกาะนุ้ยนอก จนเตียนโล่ง และป.ป.ช.กระบี่ ได้ขึ้นไปตรวจสอบแล้ว เมื่อ 24 ธ.ค.64 พบมีการตัดต้นไม้และโค่นต้นไม้แล้วเผาจริง เรื่องนี้ ป.ป.ช.มีเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอที่จะไปดูแล จึงฝากให้เจ้าหน้าที่รัฐทุกฝ่ายช่วยกัน
สำหรับ โฉนดที่ดินเลขที่ 12360 อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ เนื้อที่ 5 ไร่ 2.3 ตารางวา กรมที่ดิน ได้สรุปผลการสอบสวนโฉนดเกาะนุ้ยนอก ดังนี้ ออกโฉนดที่ดินเมื่อวันที่ 28 ก.ย.64 ตามโครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน โดยอาศัยหลักฐาน ส.ค.1 ต่อมา ได้มีการขอจดทะเบียนขายเมื่อวันที่ 18 ต.ค.64
ปรากฏว่าโฉนดที่ดินดังกล่าวเป็นโฉนดที่ดินที่ออกไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายเนื่องจากออกไม่ตรงตามหลักฐาน ส.ค.1 ที่ใช้เป็นหลักฐานในการยื่นขอออกโฉนดที่ดินประกอบกับจังหวัดกระบี่ ไม่ได้ประกาศกำหนดเป็นท้องที่เดินสำรวจฯ และผลการตรวจสอบสภาพพื้นที่จริง ปรากฏว่า ที่ดินไม่มีร่องรอยการทำประโยชน์ มีสภาพเป็นเกาะซึ่งต้องห้ามมิให้ออกโฉนดที่ดินตามกฎหมาย เป็นการออกโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และกรมที่ดิน ได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ลงพื้นที่เร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการออกโฉนดที่ดินดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน