เมื่อวันนที่ 10 พฤศจิกายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงใกล้กับประเพณียี่เป็ง หรือเทศกาลลอยกระทงของจังหวัดเชียงใหม่ ประจำปี 2564 ทางเทศบาลนครเชียงใหม่ ได้มีการจัดงบประมาณกว่า 8.5 ล้านบาท ปรับภูมิทัศน์ประดับประดาโคมล้านนาหลายขนาด และหลากสีสัน บริเวณรอบคูเมืองเชียงใหม่ ภายใต้ชื่องานว่า “เชียงใหม่นครแห่งความสุข Chiang Mai City of Happiness” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 - 20 พฤศจิกายน 2564
ทั้งนี้ การตกแต่งเมืองเชียงใหม่ในประเพณียี่เป็งปีนี้ ทางเทศบาลนครเชียงใหม่ ในรูปแบบสืบสานวัฒนธรรม สืบสานวิถีถิ่น วิถีใหม่ เป็นการประยุกต์ผสมผสานระหว่างศิลปะวัฒนธรรมแบบล้านนา กับการท่องเทียววิถีชีวิตใหม่หรือ“New Normal” เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และเพื่อเป็นการรับมือการเปิดเมืองของจังหวัดเชียงใหม่ ในโครงการชาร์มมิ่งเชียงใหม่
สำหรับบรรยากาศโดยรอบตัวเมืองเชียงใหม่ เริ่มมีประชาชนและนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวไทย ทยอยเข้ามาถ่ายรูปกับโคมแบบล้านนา โดยโดยเฉพาะที่ข่วงประตูท่าแพ ที่เป็นจุดศูนย์กลางในการจัดกิจกรรม โดยผู้ที่เข้าชมงานจะต้องทำการจองและลงทะเบียนเพื่อท่องเที่ยวและ ร่วมกิจกรรมต่างๆ โดยจองผ่านทางแอปพลิเคชัน หรือสแกน QR Code “ยี่เป็งเชียงใหม่ 2564 Yeepeng Chiang Mai Festival” เพื่อทำการจองคิวล่วงหน้า เมื่อมาถึงจุดจัดงาน จะมีการวัดอุณหภูมิร่างกาย พร้อมกับลงชื่อหรือสแกนคิวอาร์โค้ดเข้าชมงาน
นอกจากนี้งานประเพณียี่เป็ง จะกระจายจัดอยู่โดยรอบคูเมืองเชียงใหม่ แม้ในปีนี้จะไม่มีจัดประกวดขบวนกระทงใหญ่ แต่จะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบเป็นการจัดแสดงรถกระทงใหญ่ จำนวน 10 ขบวน 7 จุดรอบเมืองเชียงใหม่ ประกอบด้วย ข่วงประตูท่าแพ ลานอนุสาวรีย์ สามกษัตริย์ ประตูช้างเผือก ประตูสวนดอก แยกกาดสมเพชร ประตูเชียงใหม่ และหน้าสำนักงานเทศบาลนครเชียงใหม่
พร้อมกันนี้ ยังจัดกิจกรรมต๋ามผางปะตี๊ดส่องฟ้าฮักษาเมือง การประกวดเทพี-เทพบุตรยี่เป็งเชียงใหม่ การประกวดหนูน้อยยี่เป็งเชียงใหม่ การประกวดโคมล้านนาหรือโคมแขวนใหญ่ การประกวดกระทงใบตองฝีมือ การปล่อยกระทงสายล้านนา (สะเปา) ซุ้มประตูป่า พิธีบวงสรวง ประเพณีตั้งธรรมหลวง และกิจกรรมทางวัฒนธรรม โดยทุกกิจกรรมจะจัดในรูปแบบออนไลน์ทั้งหมด