รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป นรุตม์ เจียรสนอง ระบุ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ เตรียมความพร้อมเปิดให้บริการหลังจากที่ผ่านมาต้องปิดให้บริการใน 27 จังหวัด จำนวน 85 สาขา จากที่มีสาขาทั้งสิ้นกว่า 172 สาขาทั่วประเทศ โดยเฉพาะสาขาในกรุงเทพฯและปริมณฑล ที่ทำรายได้เป็นสัดส่วน 80% ของรายได้ทั้งหมด
ที่ผ่านมาการกลับมาเปิดโรงหนังในต่างประเทศพบว่า ผู้บริโภคมีอัตราการกลับเข้ามาชมสูงจนเกือบปกติ หรือในกรณีประเทศไทยก่อนปิดกิจการในครั้งก่อนมีหนังฟอร์มยักษ์เข้าฉาย คือ ก็อตซิลล่าปะทะคิงคอง ในช่วงเดือน มี.ค. แม้จะมีโควิดระบาด แต่สามารถทำรายได้มากถึง 300 ล้านบาท จึงค่อนข้างมั่นใจว่าถ้ามีหนังฟอร์มใหญ่เข้ามาก็จะดึงดูดคนให้กลับเข้าดูภาพยนตร์ที่โรงได้ ทั้งนี้ คาดว่าเมื่อโรงภาพยนตร์กลับมาเปิดบริการได้ตามปกติจะช่วยผลักดันให้ผลประกอบการกลับมาเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันมีหนังฟอร์มยักษ์จากค่ายฮอลลีวู้ดรอเข้าฉายในโรงภาพยนตร์กว่า 20 เรื่อง หรือคิดเป็นหนังใหม่ที่เตรียมเข้าโรงประมาณ 6-7 เรื่องต่อสัปดาห์ ซึ่งจะส่งผลให้จำนวนลูกค้ามีตัวเลือกในการรับชมภาพยนตร์ที่มากขึ้นและยังช่วยกระตุ้นจำนวนผู้เข้าชมให้เพิ่มสูงขึ้น
นอกจากนี้ เมเจอร์ยังวางแผนสร้างภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่ปีละ 15-20 เรื่อง โดยการหาพาร์ทเนอร์ที่มีความเชี่ยวชาญ ทั้งในไทยและต่างประเทศ เพื่อสร้างภาพยนตร์ไทยให้มีคุณภาพและปริมาณมากขึ้น
นอกจากธุรกิจโรงภาพยนตร์ เมเจอร์ฯยังมีแผนการสร้างรายได้จากธุรกิจเทรดดิ้งโดยเฉพาะการขายป๊อปคอร์นที่มีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นในทุกๆ เดือนตั้งแต่เปิดจำหน่ายโดยขณะนี้มียอดขายมากถึง 50 ล้านบาท/เดือน ในผ่านช่องทางไรเดอร์ แกร็บ ฟู้ดแพนด้า ไลน์แมน ซูเปอร์มาร์เก็ต คอนวีเนี่ยนสโตร์ ไฮเปอร์มาร์เก็ต เซเว่นอีเลฟเว่น และช่องทางอีคอมเมิร์ซ ในช้อปปี้และลาซาด้า ซึ่งช่วยให้ขยายธุรกิจป๊อบคอร์นนอกโรงภาพยนต์เติบโตได้ 10-20% ต่อเดือน
ล่าสุดเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ เปิดให้บริการโรงภาพยนตร์ หลัง ศบค.ประกาศผ่อนคลายให้กิจการโรงภาพยนตร์กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง ด้วย 5 แผนแม่บท สะอาด มั่นใจ ปลอดภัยทุกจุด ซึ่งยึดตามหลักเกณฑ์มาตรฐานสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ลูกค้าได้มั่นใจ การเข้าใช้บริการชมภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยพนักงานได้รับวัคซีน 100% ตรวจคัดกรองก่อนให้บริการ ทั้งลูกค้าและพนักงาน เว้นระยะห่าง จำกัดจำนวนลูกค้าในโรงภาพยนตร์ไม่เกิน 50% ไม่สร้างความแออัด รักษาความสะอาดในทุกจุดสัมผัส และลดการสัมผัสเงินสด สู่สังคมไร้เงินสด ตั้งแต่ตุลาคมนี้เป็นต้นไป โรงภาพยนตร์ทุกสาขาในกรุงเทพและปริมณฑล จะงดรับเงินสดเป็นโรงภาพยนตร์ไร้เงินสดอย่างเต็มรูปแบบ รวม 50 สาขา โดยใช้วิธีการจองตั๋วผ่านตู้จำหน่ายบัตรชมภาพยนตร์อัตโนมัติ พร้อมชำระเงินผ่านบัตรหรือธนาคารต่าง ๆ และนำระบบ Smart Ticket ตรวจตั๋วก่อนเข้าชมผ่านแอพพลิเคชั่นโดยไม่ใช้พนักงาน เพื่อลดการสัมผัสระหว่างบุคคลอย่างแท้จริง