ช่วงเช้ามืดวันนี้ (27 ก.ย.) พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบช.ก. นำกำลังชุดสืบสวน บก.รฟ. ปูพรมค้น 7 จุดใน กทม. และต่างจังหวัด ที่มีความเกี่ยวข้องกับขบวนการทุจริตลงทะเบียนวัคซีน หลังช่วงปลายเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พบความผิดปกติในระยะที่เริ่มปรับให้มีการวอล์กอินลงทะเบียนหน้าศูนย์ฉีดวัคซีนบางซื่อ ที่มีรายชื่อบุคคลที่มีการลงทะเบียนนอกเวลาทำการ (หลังเวลา 20.00 น.) ผิดปกติจำนวนมาก หรือประมาณวันละ 1 พันคน
จนกระทั่งช่วงวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา ปรากฏภาพคนจำนวนมายืนรอกันที่บริเวณประตู 4 และพบตัวเลขผู้ลงทะเบียนมา 2,000 คน ทั้งที่ตัวเลขนัดหมายมีฉีดวัคซีนของกระทรวงการต่างประเทศแค่ 384 คน เท่านั้น และพบมีการเรียกเก็บค่าหัวคิวซื้อโควต้าฉีดวัคซีน หัวละ 400-1,200 บาท รวมเป็นเงิน 120,000-360,000 บาท เป็นเหตุให้ นางศิริลักษณ์ อุบลเหนือ รองผู้อำนวยการศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ได้มาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษไว้ที่สถานีตำรวจรถไฟนพวงศ์
ต่อมา พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ ระดมชุดทำงานคลี่คลาย ก่อนรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้อง 7 ราย ในหลายข้อหา ทั้งตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ , ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันฉ้อโกง
เวลา 11.30 น. ที่ บริเวณประตู 1 ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง คุมตัว น.ส.ภคมน หอมภักดิ์ และ นายวิชญพงศ์ ธีรอังคณานนท์ สองสามีภรรยามาชี้จุดเกิดเหตุ หลังจับกุมได้ที่ห้อง 310 อพาท์เม้นท์แห่งหนึ่ง ใน ซ.รัชดาภิเษก 3 แยก 18 ในช่วงเช้า โดยเจ้าหน้าที่ให้ น.ส.ภคมน สาธิตการลงทะเบียนที่เค้าท์เตอร์เบอร์ 41และเบอร์ 42 ภายในประตู 4 โดยนำบัตรประชาชนของสื่อมวลชนมากรอกข้อมูลเข้าไปในระบบ ซึ่งเป็นหนึ่งในขั้นตอนของแผนประทุษกรรม
ทั้งนี้ น.ส.ภคมน ได้ ยืนยันว่าการกระทำของตนไม่ได้เป็นการตัดโควตาของประชาชนทั่วไปในแต่ละวัน แต่เป็นโควตาของผู้ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ที่จะมีโควต้าในการใช้ลงทะเบียน
ตนจึงใช้ตรงจุดนั้นในการลงทะเบียนรอที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อเป็นศูนย์กลางในการกระจายวัคซีนทำให้ปริมาณวัคซีนในแต่ละวันมีจำนวนเพียงพอที่จะเพิ่มจำนวนตามความต้องการของตนเอง โดยเริ่มแรกเป็นการลงทะเบียนให้กับคนรู้จักเพื่อที่อยากจะช่วยให้ได้รับการฉีดวัคซีนโดยเร็ว
จากนั้นก็มีคนมาติดต่อให้ตนลงทะเบียนการฉีดวัคซีนให้กับคนอื่นให้ค่าจ้างหัวละ 200-300 บาท ก่อนที่คนที่มาจ้างตนจะนำไปบวกค่าใช้จ่ายเพิ่มอีก อย่างน้อย 3 ทอด มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายสูงสุดถึง 1,000 บาทต่อคน รวมได้ทั้งหมดกว่า 3-4 ล้านบาท ส่วนเงินที่ได้นำไปใช้จ่ายหนี้สินที่เกิดจากช่วงภาวะการระบาดของเชื้อโควิด 19
ภายหลังการชี้จุด นายอนุทิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุม โดยนายอนุทิน ย้ำว่า การฉีดวัคซีนจากหน่วยงานของรัฐและที่บางซื่อ ไม่มีการเรียกเก็บเงินหรือค่าดำเนินการใดๆ ขอประชาชนอย่าหลงเชื่อ การจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดต้องขอบคุณทางเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่พบเห็นความผิดปกติของตัวเลขผู้ลงทะเบียน จนนำมาสู่การดำเนินการ
รายงานข่าวแจ้งว่า ปฎิบัติการทลายเครือข่ายขบวนการสวมสิทธิ์วัคซีนครั้งนี้ บช.ก. ได้มีการสอบปากคำผู้เสียหายกว่า 200 ปาก ก่อนขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหา 7 ราย ประกอบไปด้วย น.ส.ภคมน หอมภักดิ์ , นายวิชญพงศ์ ธีรอังคณานนท์ , ซึ่งเป็นหัวโจกในการกระทำความผิด ส่วนนางสุรีนาฎ ปัทมวิชัยพร , นายจุมพล ศรียาภัย , นางสาวบัณฑิตา รุ่งสว่าง , นางสาวกรรติมา ยางทอง , นายหทัยชนก บริรักษ์ เป็นผู้รับโอนเงิน โดยขณะนี้สามารถจับกุมได้ 6 ราย ในพื้นที่ย่านดินแดงกทม. , จ.ราชบุรี และหาดใหญ่ จ.สงขลา เหลือเพียงนางสาวบัณฑิตา รุ่งสว่าง ที่จะขอติดต่อมอบตัวภายหลัง และพบเงินโอนของเหยื่อขบวนการนี้กว่า 7 ล้านบาท