ฟอร์ดไปไม่ไหว เตรียมถอยจากตลาดอินเดีย หลังอยู่มา 25 ปี
ขาดทุนเยอะ ตลาดรถยนต์ใหม่ก็ไม่ค่อยโต ส่วนแบ่งตลาดรถยนต์นั่งเหลือแค่ 2 เปอร์เซ็นต์ ถือเป็นอุตสาหกรรมยานยนต์รายใหญ่รายที่ 3 แล้วที่ถอยออกจากอินเดียในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
บริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่อย่าง " ฟอร์ด " จะหยุดการผลิตรถยนต์ในอินเดีย และจะปิดโรงงานทั้งสองแห่งในประเทศ
ฟอร์ดบอกว่าจะปิดโรงงานในรัฐคุชราตและรัฐทมิฬนาฑูภายในไตรมาสที่สองของปี 2565 แต่จะยังคงผลิตเครื่องยนต์สำหรับรถยนต์เพื่อการส่งออก ในโรงงานทั้งสองแห่ง พวกเขามีพนักงานราว 1 หมื่นคน
ฟอร์ดเป็นบริษัทรถยนต์รายใหญ่รายล่าสุดที่ออกจากตลาดอินเดียในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ในปี 2560 เจเนอรัล มอเตอร์ส หรือ GM ก็หยุดการผลิตรถยนต์สำหรับตลาดอินเดีย
และเมื่อปีที่แล้ว ฮาร์เล่ย์ - เดวิดสัน ได้หยุดการผลิตและลดขนาดการดำเนินการด้านการขายในตลาดรถจักรยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
การถอนตัวออกไปเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อความพยายามของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของอินเดียในการดึงดูด หรือรักษาผู้ผลิตต่างชาติในประเทศเอาไว้
ฟอร์ดขาดทุนจากการดำเนินงานในอินเดียมากกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ขณะที่ความต้องการรถยนต์ใหม่ก็ลดลง
ผู้ผลิตรถยนต์ซึ่งผลิตรถยนต์ 5 รุ่นสำหรับตลาดท้องถิ่น บอกว่าจะยังคงให้บริการด้านบำรุงรักษา อะไหล่ และการรับประกันแก่ลูกค้าเดิมต่อไป
ถ้อยแถลงระบุว่าฟอร์ดจะ " หันไปสู่การเป็นรถยนต์ระดับสำคัญโลกและรถเอสยูวีที่ใช้พลังงานไฟฟ้าในอนาคต " แม้ว่าจะยังไม่ชัดเจนว่าจะผลิตในอินเดียหรือไม่
ฟอร์ดผลิตรถยนต์ในอินเดียมาเป็นเวลา 25 ปีแล้ว แต่ก็ต้องดิ้นรนเพื่อให้สามารถแข่งขันได้
ตามรายงานระบุว่า พวกเขามีส่วนแบ่งในตลาดรถยนต์นั่งน้อยกว่า 2% และบริษัทอยู่ในอันดับที่ 9 ของผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของประเทศ
