1 กันยายน 2564 ที่ศาลาวัดบ้านบก ตำบลโพนข่า อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษ ได้เตรียมสถานที่ในการเปิดหมู่บ้าน ชุมชน ยั่งยืน ภายหลังจากที่ลงพื้นที่ทำการประชุมชี้แจง ทำความเข้าใจกับผู้นำชุมชน ทั้งกำนัน - ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน แกนนำกลุ่มเยาวชนในหมู่บ้านบก ซึ่งก่อนหน้านี้พบว่า ได้มีเยาวชนคนบ้านบก เยาวชนในตำบลโพนข่า ได้มีการนัดหมายเพื่อมาขับรถจักรยานยนต์แข่งขันกัน ซึ่งรถทุกคันผ่านการแต่งซิ่ง เปลี่ยนท่อไอเสียให้มีเสียงดัง หลายคันไม่มีทะเบียน นำมาซึ่งการกระทำผิดกฎหมาย ซึ่งล้วนแต่อายุยังไม่ถึง 20 ปี และเมื่อกระทำผิดผู้ปกครองก็จะต้องรับผิดชอบในฐานความผิดดังกล่าวตามกฎหมายด้วย
สุดท้ายผู้ปกครอง ผู้นำชุมชน หมู่บ้าน เห็นด้วยในการจัดทำโครงการชุมชนยั่งยืน ด้วยการนำผู้ปกครอง นำเยาวชนมาเข้าร่วมในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เข้าใจกฎหมาย เข้าใจสังคม ด้วยการสมัครใจบวชพระ บวชเณรร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะบวชเป็นพี่เลี้ยง พาปฏิบัติศาสนกิจ พาเดินจงกรม พาออกบิณฑบาตทุกเช้าผ่านบ้านตนเอง เปิดโอกาสให้พ่อแม่ทำบุญใส่บาตร พาสวดมนต์ทำวัตรทุกวัน พานั่งสมาธิ พร้อมรับฟังธรรมะทุกวัน ตลอดระยะเวลาการอบรมในโครงการ 3 เดือน ใช้ธรรมะในการรักษาบำบัดจิตใจ ให้ห่างไกลจากยาเสพติด หลุดพ้นจากวงจรอบายมุข โดยวันนี้ พลตำรวจตรี สันติ เหล่าประทาย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย พันตำรวจเอก เทพพิทักษ์ แสงกล้า ผู้กำกับ สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจ มาเตรียมป้ายขนาดใหญ่ เพื่อลงบันทึกความร่วมมือของทุกภาคส่วน ร่วมกับชาวบ้าน ผู้นำชุมชน ซึ่งมี นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ มาร่วมลงนามเป็นสักขีพยานในป้ายขนาดใหญ่ด้วย
นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า วันนี้ต้องแสดงความชื่นชมกับผู้นำชุมชน ท้องถิ่น กำนัน - ผู้ใหญ่บ้าน โดยพาะผู้ปกครองเด็ก - เยาวขน ที่ได้ร่วมกันตั้งใจในการที่จะจัดทำโครงการ ชุมชนยั่งยืนเพื่อแก้ปัญหายาเสพติพแบบครบวงจร ตามยุทธศาสตร์ชาติ โดยการดำเนินตามโครงการโดยหมู่บ้าน ที่จะต้องดำเนินการจากนี้เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 3 เดือน โดยจังหวัดศรีสะเกษ เองได้กำหนดเป้าหมายที่จะดำเนินการ ทั้งจำนวน 32 สถานีๆ ละอย่างน้อย 1 แห่ง รวมทั้งจังหวัดศรีสะเกษ ก็ 32 ชุมชนยั่งยืน
ซึ่งที่ผ่านมา ผู้ว่าฯ เองก็พบว่ามีทั้งชาวบ้าน หลวงพ่อที่อยู่วัด ว่ามีเด็กเยาวชนออกมาก่อกวน ทั้งแข่งรถจักรยานยนต์ในยามวิกาล ทั้งเสพยาเสพติด หนักสุดก็มีการแจ้งว่ามีเด็กเข้าไปเป็นผู้จำหน่าย ซึ่งผู้ปกครองก็ไม่ทราบว่าลูกหลานตนเป็นเช่นนี้ การทำชุมชนยั่งยืนเป็นการป้องกัน แก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน ซึ่งโครงการนี้นับว่าเป็นโครงการที่ดี ก็หวังว่าทุกภาคส่วนจะให้การสนับสนุนช่วยกัน เพราะลำพังเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายเดียว หรือใครคนใดคนหนึ่ง กลุ่มหนึ่ง ส่วนงานหนึ่งก็จะไม่สามารถกระทำให้เป็นผลสำเร็จลงได้โดยง่าย ก็ขอให้กำลังใจให้ทุกท่านดำเนินการสำเร็จเพื่อลูกหลาน เพื่อบ้านเมืองของเราชาวศรีสะเกษทุกคน
โดย - พงษ์พัฒน์ ไตรพิพัฒน์