วันที่ 12 สิงหาคม 2564 เป็นวันแม่แห่งชาติ ที่ ตลาดาดเทศบาลเมืองศรีสะเกษ ได้มีบรรดาลูกๆ หลานๆ ได้แวะมาหาซื้อมาลัยกรดอกมะลิ ซึ่งถือกันว่าเป็นสัญลักษณ์ของความความกตัญญูต่อบุพการี ที่ชื่อว่าแม่ แต่พอเมื่อมาเจอราคาพวงมาลัยกรดอกมะลิในเช้าวันนี้ถึงกับผงะ ตกใจ มาลัยกรดอกมะลิ พวงละ 50 บาท แต่หากพวงสวยๆ พวงละ 80 บาท และเมื่อสอบถามแม่ค้าที่นั่งร้อยมาลัยกรดอกมะลิขายจึงทราบความจริงว่า ต้นทุนของดอกมะลิที่ส่งมาในเช้าวันนี้กิโลกรัมละ 1,200 บาท ราคาเพิ่มสูงขึ้นจากเมื่อวานที่ขายกันอยู่กิโลกรัมละ 200 ถึง 300 บาทเท่านั้น แต่พ่อค้าแม่ค้าก็จำใจสั่งลงมาเพื่อมาร้อยมาลัยกรขายให้กับบรรดาลูก ๆ ที่ต้องการนำไปไหว้แม่เพื่อเป็นมงคลกับตนเองในวันแม่วันนี้ แม้จะพบว่าดอกมะลิราคาเพิ่มสูงขึ้น อันเนื่องมาจากดอกมะลิเจอฝนตกจึงไม่ออกดอก หายาก แต่ปีหนึ่งมี ครั้งหนึ่งที่ลูกจะได้แสดงออกถึงความกตัญญูอยู่ในวันสำคัญเช่นนี้ ต่างก็ยอมจ่ายแพงเพื่อซื้อไปไหว้แม่กัน
คุณป้า ดวงตา โพธิ์ขาว แม่ค้ารายหนึ่งที่กำลังร้อยมาลัยกรดอกมะลิจำหน่ายในเช้าวันนี้ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ปีนี้ดอกมะลิส่งขายมาแพงมากกิโลละ 1,200 บาท จากที่เมื่อสองวันที่ผ่านมากิโลกรัมละ 200 ถึง 250 บาทเท่านั้น มาวันนี้แพงมาก ซึ่งนอกจากจะแพงแล้วยังไม่มีให้ด้วย เมื่อสอบถามไปก็ได้คำตอบว่าดอกมะลิช่วงนี้ไม่ออกดอกเนื่องจากมีฝนตกมาต่อเนื่อง ซึ่งโดยปกติมะลิจะชอบหน้าร้อน อากาศร้อน จะออกดอกเยอะ แต่แม่ค้าก็จำเป็นต้องสั่งมาขาย เพราะเป็นวันสำคัญคือวันแม่ ได้กำไรไม่เยอะ แต่ก็ดีกว่าไม่มีขาย
ตอนนี้ก็ส่งราคาพวงละ 40 บาทมาขายหน้าร้าน มาลัยกรพวงละ 50 บาท ถ้าสวย ๆ หน่อยก็พวงละ 80 บาท ส่วนการจำหน่ายก็บางตาได้เรื่อย ๆ แต่ไม่มากเช่นทุกปี เนื่องจากผู้ที่อยู่กรุงเทพก็มาไม่ได้ ติดเรื่องสถานการณ์โรคโควิด-19 แพร่ระบาดหนักอยู่ในขณะนี้ ก็จะมีมาซื้อเฉพาะพื้นที่ก็ไม่มากไม่คึกคักเช่นทุกปี
ข่าว/ภาพ พงษ์พัฒน์ ไตรพิพัฒน์