มหันตภัย "ไฟป่า" เผาวอดทั่วตอนใต้ยุโรป

เหตุการณ์ไฟป่าครั้งนี้เริ่มต้นขึ้นที่ประเทศตุรกีซึ่งสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างในพื้นที่ และยังลามข้ามเขตแดนไปถึงประเทศอื่น ยิ่งทวีความเลวร้ายเมื่อคลื่นความร้อนที่แผ่ขยายไปทั่วทั้งยุโรปใต้ จุดปะทุไฟป่าให้กินบริเวณเข้าไปในสเปน, อิตาลี และกรีซ ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ความร้อนหนักหน่วงในระดับที่ประชาชนไม่สามารถอยู่ใต้แสงอาทิตย์นานจนเกินไป อีกทั้งนำไปสู่ไฟป่าที่เกิดในป่าสนในแถบเทือกเขาใกล้กรุงเอเธนส์ก่อนปกคลุมทั้งผืนป่าในเวลาอันรวดเร็ว

 

เปลวเพลิงลุกลามมาถึงบริเวณเกาะยูบีอาที่อยู่ห่างจากกรุงเอเธนส์ไปเพียง 200 กิโลเมตร แผดเผาบ้านไปแล้วไม่ต่ำกว่า 150 หลังคาเรือน มีรายงานว่าศาสนสถานในท้องที่ถูกเปลวเพลิงที่มีความสูงขนาด 30 -40 เมตรกลืนหายไปกับตา ความรุนแรงของไฟป่ากินวงกว้างและร้ายแรงถึงขนาดเห็นเปลวเพลิงได้ชัดเจนแม้มองมาจากท้องทะเล ส่งผลให้ต้องอพยพผู้คนนับพันออกจากพื้นที่

จากปากคำของนักผจญเพลิงที่เข้าไปในที่เกิดเหตุ พวกเขาบอกว่าภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาพวกเขาต้องรับมือกับไฟไหม้มาแล้ว 118 ครั้งและไม่มีทีท่าจะเบาลง เถ้าถ่านและกลุ่มควันแผ่กระจายไปทั่วทั้งประเทศ จนเริ่มมีประชาชนได้รับผลกระทบจากทางเดินหายใจ

 

ทางรัฐบาลต้องออกประกาศเตือนให้ประชาชนนอกพื้นที่อพยพอยู่แต่ในอาคาร ปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด และสวมหน้ากากเพื่อป้องกันควันและขี้เถ้าที่ลอยมาตามลม พร้อมสั่งปิดสถานที่ท่องเที่ยว พิพิธภัณฑ์ หรือเทวสถานทั้งหมดชั่วคราว รวมถึงสั่งขนย้ายหรือจัดการสารเคมีทั้งหลายตามโรงงานใกล้เคียงเพื่อป้องกันเหตุร้ายแรงแทรกซ้อน แต่กลับไม่ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นมากนัก เปลวเพลิงยังทำลายเสาไฟฟ้าไปมากจนทำให้ระบบไฟฟ้าของประเทศเริ่มประสบปัญหา

 

เจ้าหน้าที่กู้ภัยและนักดับเพลิงพากันทำงานหามรุ่งหามค่ำ ทั้งต้องอพยพประชาชนให้ออกจากพื้นที่และควบคุมเพลิงไปพร้อมกันแต่ดูไม่เป็นผลนัก เครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์กู้ภัยอย่างละ 5 ลำถูกนำมาใช้ในการโปรยน้ำดับไฟ รวมถึงเครื่องบินกู้ภัยที่ได้รับมาจากรัสเซีย แต่ก็ยังไม่พอ จนเริ่มมีการเรียกร้องให้ส่งกองทัพมาช่วยในภารกิจดับไฟป่าครั้งนี้

ด้านสหภาพยุโรปเองก็เริ่มพิจารณาให้ความช่วยเหลือ ขณะที่ไซปรัสและสวีเดนส่งเครื่องบินกู้ภัยอีกสองลำมาช่วย

 

อิตาลีคือประเทศต่อมาที่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้เข้าอย่างจัง จากสถิติตัวเลขชี้ปริมาณไฟป่าที่เกิดในพื้นที่เพิ่มขึ้นถึงสามเท่าเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างทั้งกับพื้นที่ทางตอนใต้และตอนกลาง ครอบคลุมมากกว่า 8 เมืองภายในประเทศ ไม่เว้นแม้แต่เมืองท่าขนาดใหญ่อย่างเมสซีนา ทั้งยังลุกลามเข้าไปในแถบชายหาดและพื้นที่ท่องเที่ยว ขณะที่ทางฝั่งเหนือก็ประสบปัญหาจากพายุฝน โดยทะเลสาบโคโม่ หนึ่งในสามทะเลสาบใหญ่ของอิตาลีประสบปัญหาน้ำล้นตลิ่ง ทำให้เกิดน้ำท่วม-ดินถล่ม อิตาลีจึงต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติทั้งสองด้านที่แตกต่างกันสุดขั้ว

 

ไม่มีใครบอกได้ว่าภัยพิบัติในครั้งนี้จะสิ้นสุดที่ตรงไหน แต่สำหรับอิตาลีนี่เป็นแค่เริ่มต้น ทั้งสำหรับไฟป่าที่ลามมาจากประเทศเพื่อนบ้าน หรือน้ำท่วมที่กำลังตัดขาดพื้นที่ภาคเหนือ