นายชูชาติ แสงปรางค์ อายุ 50 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่6 ต.สนามคลี อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก เล่าว่าสำหรับเทศกาลตกปลาบ้านสนามคลีนั้นก่อตั้งขึ้นมานานแล้วเริ่มตั้งแต่แหล่งน้ำแห่งนี้ได้มีการขุดลอกเมื่อปี พ.ศ.2536 ขนาดความกว้างของบ่อ150 เมตร ยาว 1500 เมตร ซึ่งเป็นแหล่งน้ำที่ขนาดใหญ่ที่สุดในชุมชน หากวิ่งรอบบ่อรวมระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ที่ผ่านมาก็จะปล่อยพันธุ์ปลาลงอนุรักษ์ไว้ในบ่อ
โดยปลาส่วนใหญ่ในบึงบัวจะเป็นปลาจีน ปลายี่สก ปลานวลจันทร์ ปลาสวาย แต่จะมีข้อแม้ว่าหากตกได้ปลาบึก จะต้องส่งมอบปลาคืนให้กับทางชุมชนได้ทำการอนุรักษ์ไว้ โดยในวันนี้มีนักกีฬาสามารถตกปลาบึก หนักประมาณ เกือบ 100 กก. ก็ได้ทำการส่งมอบให้กับคณะกรรมการในชุมชนทำการปล่อยกลับคืนสู่แหล่งน้ำธรรมชาติเพื่อต้องการสงวนและอนุรักษ์ปลาบึกขนาดใหญ่ไว้ในแหล่งน้ำบึงบัวให้ลูกหลานชาวตำบลสนามคลี อำเภอบางกระทุ่ม เพื่อจะได้เป็นแหล่งอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำที่มีขนาดใหญ่ หายากและใกล้สูญพันธุ์ไว้ในแหล่งน้ำบึงบัวสืบไป
บรรยากาศการตกปลาก็เป็นไปด้วยความคึกคัก นักกีฬาตกปลาไม่ต่ำกว่า 3 พันคนแห่มารอลงทะเบียนคันเบ็ดตั้งแต่ช่วงเช้า หลังจากนั้นก็ไปจับจองมุม ที่คิดว่าจะเป็นทำเลทองของแต่ละคน ส่วนใหญ่นักกีฬาตกปลาจะมาเป็นครอบครัว มีลูกเมีย ญาติมาด้วยกัน ก็กางเต้นท์ ปรุงอาหารมานั่งกินเพราะ บ่อจะเปิดช่วงบ่าย 3 สามารถตกได้ไปถึงเช้า จึงจะหมดรอบ ส่วนใหญ่จะกางเต้นท์นอนกันที่แหล่งน้ำแห่งนี้เลย
นายชูชาติ แสงปรางค์ บอกว่าปกติในแต่ละปีทางชุมชนจะเปิดบ่อช่วงฤดูหนาว แต่ปีนี้เกิดการระบาดของโควิด-19 จึงทำการเลื่อนออกมาเป็นวันที่ 19-20-21 และ 26-27-28 ก.พ.64 เท่านั้น เปิดเพียง 2 สัปดาห์ ท่ามกลางมาตรการ ควบคุมโควิด-อย่างเข้มงวด คือผู้ที่เข้างานต้องตรวจวัด อุณหภูมิ ล้างมือ สวมแมส และเว้นระยะห่าง
ประกอบกับบึงบัวมีขนาดใหญ่มาก จึงไม่เกิดการแออัดขึ้นแน่นอน โดยเริ่มเปิดวันแรกเมื่อวาน(19 ก.พ.64) สามารถเก็บค่าคันเบ็ดในราคาคันละ 50 บาท มีรายได้เข้าชุมชนเป็นเงิน189,900 บาท ซึ่งในแต่ละฤดูกาลที่เปิดก็จะได้เงินรายได้ไม่ต่ำกว่า 5 แสนบาท สำหรับเงินที่ได้ก็จะมีคณะกรรมการของชุมชนเป็นคนดูแล นำเงินไปพัฒนาชุมชนในทุกด้านให้เข้มแข็ง ปีที่ผ่านมาก็สามารถนำเงินไปสร้างถนนเข้าหมู่บ้านระยะทางยาว 1 กิโลเมตร ได้โดยไม่ต้องพึ่งงบของหลวงเลย