ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ของไต้หวัน ประกาศเมื่อเดือนสิงหาคมว่าตั้งแต่วันที่ 1 มกรา คมปีหน้า รัฐบาลจะอนุญาตให้มีการนำเข้าเนื้อหมูจากสหรัฐที่มีสาร " แร็คโทพามีน "ซึ่งเป็นสารปรุงแต่งที่ช่วยเพิ่มเนื้่อแดง แต่ถูกห้ามในสหภาพยุโรปและจีน รวมทั้งการอนุญาตให้นำเนื้อวัวจากสหรัฐที่มีอายุมากกว่า 30 เดือน
ในขณะที่การตัดสินใจนี้ ได้รับการต้อนรับในวอชิงตัน เพราะเป็นการปลดอุปสรรคสำคัญสำหรับข้อตกลงการค้าเสรีที่สหรัฐหวังที่จะบรรลุกับไต้หวันมานานแล้ว แต่ KMTได้คัดค้านการตัดสินใจดังกล่าวอย่างมาก โดยให้ความสำคัญกับเรื่องความกังวลของสาธารณชนเกี่ยวกับความปลอดภัยของอาหาร หลังจากที่เกิดเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับสารตัวนี้หลายครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
นับตั้งแต่การประชุมรัฐสภาสมัยล่าสุด ได้เปิดฉากขึ้นในช่วงกลางเดือนกันยายน KMT ได้พยายามปิดกั้นไม่ให้นายกรัฐมนตรีซู เจินชาง ไม่ให้นำเสนอรายงานตามปกติและตอบคำถาม โดยการยึดโพเดียมที่เขาใช้พูด เพื่อประท้วงการตัดสินใจเรื่องหมู
และในวันนี้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเริ่มพูด สมาชิกสภานิติบัญญัติจากพรรค KMT ก็ขว้างไส้และเครื่องในหมูเป็นถังไปที่เขา และบางคนก็เริ่มชกต่อยกัน โดยมีการเผชิญหน้ากันอย่างหนักเป็นพิเศษระหว่างหลิน เว่ยโจว วิปจากพรรค KMT และเฉิน โปเว่ย จากพรรคเล็ก ๆ อย่าง " พรรคสร้างรัฐไต้หวัน "
ขณะที่พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า ที่เป็นพรรครัฐบาล ประณามการประท้วงโดยบอกในแถลงการณ์ว่าการเอาไส้หมูมาขว้างปา เป็นการทำให้อาหารสูญเปล่า ที่ทำให้รัฐ สภา "เหม็น" และ "น่าขยะแขยง"
ไต้หวันเป็นประเทศประชาธิปไตยแนวดุเดือด และการชกต่อยกัน ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไรในรัฐสภาไต้หวัน