"กิ้งกือไม่ได้มีพิษร้ายแรงนะครับ แค่ควรจะต้องระวัง อย่าไปจับต้องโดนตัวมัน หรือไปทำร้ายมันครับ"
นักข่าวโทรมาถามเกี่ยวกับที่มีการโพสต์ว่า "มีเด็กถูกกิ้งกือกัด จนผิวไหม้ จะได้รับพิษอันตรายร้ายแรงหรือไม่ ?
จริงๆ กิ้งกือมันไม่ได้กัดนะครับ แล้วก็ไม่ได้มีเขี้ยวพิษแบบพวกตะขาบด้วย แต่เป็นแค่สารที่กิ้งกือขับออกมา และมีฤทธิ์เป็นกรด เลยทำให้ผิวของคนที่ไปสัมผัสโดน อักเสบ ปวดแสบร้อนได้ และมีเพียงแค่บางคนเท่านั้นที่จะแพ้ถึงขั้นรุนแรง
ตามข่าว บอกว่า เด็กหญิงอายุ 7 ขวบคนหนึ่ง กำลังใส่รองเท้าเดินออกจากบ้าน แต่เหมือนมีอะไรติดเท้า ก็เลยถอดออกดู เจอกิ้งกือนอนอยู่ในรองเท้า ทำให้มีอาการเป็นผื่นๆ แดงๆ
กิ้งกือนั้น ส่วนใหญ่ไม่ได้มีพิษอะไรในตัวเอง เหมือนอย่างพวกตะขาบ แมงป่อง หรืองู แต่กิ้งกือบางชนิด (เช่น พวกกิ้งกือกระบอก อย่างในรูป) อาจจะปล่อยสารพวกไซยาไนด์ หรือพวกเบนโซควิโนน ออกมาเพื่อป้องกันตัวได้ ถ้าถูกทำร้าย เช่น ไปนอนทับมันหรือไปเหยียบโดนมันเข้า
แต่สารพวกนี้ก็มีปริมาณเพียงเล็กน้อย ไม่ได้ทำให้คนเป็นอันตรายอะไรมากนัก ยกเว้นคนที่มีอาการแพ้ ก็มีอาการมากหน่อย แต่สามารถให้แพทย์รักษาได้ หรือถ้าโดนปุ๊บ ก็ให้รีบล้างน้ำทันทีเพื่อลดอาการ ก่อนไปพบแพทย์นอกจากนี้ กิ้งกือยังไม่สามารถที่กัดเรา ได้เหมือนกับพวกตะขาบที่มีเขี้ยว เพราะกิ้งกือเป็นสัตว์กลุ่มกินซาก ไม่ได้มีเขี้ยว มีแค่แผ่นฟันรูปร่างคล้ายช้อนตักไอศครีมสำหรับกัดแทะซากเท่านั้น ทำให้ไม่สามารถกัดคนได้ ... อย่างมากถ้าโดนมันแทะ ก็จะรู้สึกจั๊กจี้ แค่นั้นเอง
ดังนั้น ในช่วงหน้าฝนนี้ ก็คอยระวังด้วยเวลาใส่รองเท้า เคาะดูเสียก่อนว่ามีสัตว์ต่างๆเข้าไปแอบซ่อนตัวอยู่หรือเปล่า ... และอย่าไปกลัวกิ้งกือกันเกินเหตุ จนไปทำร้ายมันกันนะครับ เพราะมันเป็นสัตว์ที่มีประโยชน์อย่างมากต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ