รัฐวิกตอเรีย เปิดเผยวันนี้ว่า มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 240 คน และผู้เสียชีวิตรายใหม่ 13 คน โดยผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่ำกว่า 300 คนติดต่อกันเป็นวันที่ 5 ขณะที่เมื่อวานมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 216 คน ต่ำที่สุดในรอบกว่า 5 สัปดาห์
ผู้เชี่ยวชาญ เตือนว่า แม้จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลง แต่ชะลอลงในอัตราที่ช้าเกินกว่าจะสร้างความมั่นใจให้ยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ระดับ 4 ได้ก่อนครบกำหนดเวลาบังคับใช้ 6 สัปดาห์ได้
ขณะที่เมื่อวานนี้รัฐบาลเปิดเผยว่ามีแผนจะเริ่มทดลองให้นักศึกษาต่างชาติกลับเข้าเรียนได้ในเดือนก.ย. โดยนักศึกษากลุ่มแรกจะกลับเข้าเรียนที่รัฐเซาท์ออสเตรเลียได้หลังจากรัฐนี้ควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจนถึงเมื่อวันพุธมีผู้ติดเชื้อเพียง 23 คนนับจากเดือนมิ.ย.เป็นต้นมา และไม่มีการติดเชื้อภายในชุมชนมานาน 13 วัน
นักศึกษามหาวิทยาลัยกลุ่มแรก 300 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากจีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น และสิงคโปร์จะเดินทางด้วยเที่ยวบินจากสิงคโปร์ถึงเมืองอะดิเลดของออสเตรเลียช่วงต้นเดือนก.ย. และทั้งหมดจะต้องถูกกักตัวนาน 14 วันในโรงแรม ซึ่งทางมหาวิทยาลัยจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนนี้
การทดลองเปิดเรียนสำหรับนักศึกษาต่างชาติครั้งนี้จะประเมินว่าสามารถเปิดรับนักศึกษาต่างชาติเข้าประเทศได้อย่างปลอดภัยหรือไม่ และสามารถเปิดรับสมัครเข้าเรียนในปีการศึกษาหน้าเพิ่มมากขึ้นได้หรือไม่ ก่อนหน้านี้แผนการให้นักศึษาต่างชาติกลับเข้าเรียนในกรุงแคนเบอร์ราเมื่อเดือนก.ค.ต้องถูกเลื่อนออกไปหลังจากสถานการณ์ระบาดในประเทศเลวร้ายลง
มาตรการจำกัดการเดินทางเข้าประเทศตั้งแต่ช่วงเริ่มการระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อธุรกิจการศึกษาระหว่างประเทศ ที่เคยสร้างรายได้ปีละเกือบ 4 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลียหรือกว่า 8 แสน 8 หมื่นล้านบาท และเนื่องจากนักศึกษาหลายพันคนตกค้างอยู่ในต่างประเทศทำให้กลับเข้าเรียนไม่ได้ อาจทำให้มหาวิทยาลัยสูญเสียรายได้รวมเกือบ 3 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย