เลย. ก็เลยให้น้องชาย ขับรถมอเตอร์ไซต์พากลับไปที่เกิดเหตุก็เจอเลยค่ะ. แผงตะปูเรือใบ วางไว้ เราก็ถ่ายรูปเก็บไว้ สักพักมีผู้ชายคนนึง เดินออกมาจากในบ้านใส่หมวกโม่งปิดหน้าปิดตา ในมือถืออะไรไม่รู้ยาวๆ คล้ายอาวุธ เราก็กลัวๆเล็กน้อยกลัวเค้าทำร้าย เค้าถามเราว่า "มีอะไร" เราเลยตอบไปว่า พี่เอาตะปูมาโรยทำไม รู้ไหมหนูเหยียบ เค้าก็ตอบมาว่า "ก็เห็นพากันชอบขับรถซิ่งๆ" หนูเลยตอบไปว่า พี่จะดักรถซิ่งแล้วมันเกี่ยวไรที่หนูต้องมาโดน. เค้าก็เดินออกมาจากบ้านค่ะ แล้วเค้าก็มาเก็บแผงตะปูแล้วเดินหายเข้าบ้านไป แล้วไม่มีการขอโทษหรือว่าแสดงความรับผิดชอบอะไรเลย ก็เลยถ่ายรูป และไปแจ้งความที่โรงพักไว้ ขอยืนยันว่าเราขับรถไม่เร็วเลย. เพราะมันอยู่ในซอย และใช้เส้นทางนี้กลับบ้านแค่บางที ขอความเป็นธรรมให้เราด้วยค่ะ"
หลังรับแจ้งเหตุ พ.ต.อ.สุรสิทธิ์ สุทธิพันธุ์ ผกก.สภ.วารินชำราบ สั่งการให้ ร.ต.อ พงษ์ศักดิ์ โชติรัตน์ รอง.สวป. ปฎิบัติงานสืบสวน สภ.วารินชำราบ นำชุดสืบสวนออกติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุจนทราบตัวคือนายวีระยุทธ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี บ้านอยู่ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ หลังก่อเหตุนายวีระยุทธ์ได้หลบหนีไปอยู่ในบ้านร้างซอยร่วมใจ ห่างจากจุดเกิดแหตุประมาณ 100 เมตร
สอบถามนางเตือนใจ (ขอสงวนนามสกุล) พี่สาวนายวีระยุทธ์ ยอมรับว่าผู้ก่อเหตุเป็นน้องชายตนเองที่ป่วยมีอาการทางจิตเวชมานานกว่า 20 ปี ระยะหลังไม่ยอมทานยาประกอบกับช่วงเกิดเหตุกราดยิงที่ห้างเทอร์มินอล 21 โคราช น้องชายติดตามข่าวส่ารอย่างต่อเนื่อง จนทำให้แต่งกายเลียนแบบผู้ก่อเหตุใส่เสื้อ กางเกงลายพราง สะพายกระเป๋าถือปืนอัดลมยาวและพกมีดอยู่ตลอดเวลา
2 คืนก่อนเกิดเหตุ น้องชายมีอาการคลั่งนอนไม่หลับอ้างว่ามีคนขับรถผ่านหน้าบ้านเสียงดัง จึงได้นำเอาตะปูตอกสังกะสีเสียบกระดาษแข็งไปวางไว้บนถนนทำให้รถของประชาชนทั่วไปเหยียบได้รับความเสียหายดังกล่าวทั้งนี้ทางญติเองก็ไม่สบายใจอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวไปส่งโรงพระยาบาลพระศรีมหาโพธิ์ เพื่อทำการรักษาตัว ทางญาติเองพยายามนำตัวไปรักษาหลายครั้งแต่แต่ก็ไม่เป็นผล