ก่อนการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพส่งทายปี ที่กองบัญชาการกองทัพบก ปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำโดย พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้นำ น้องเรย์ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 รับมอบเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติ
โดย พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการสำนักงานตำรชวจแห่งชาติ กล่าวว่า ขอแสดงความขอบคุณน้องเรย์ ที่ได้ทำคุณงามความดีต่อทางราชการ และเป็นพลเมืองที่ดี มีความกล้าหาญ ตัดสินใจแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับคดี นายสมคิด พุ่มพวง ฆาตกรต่อเนื่อง 6 ศพ ซึ่งกระทำความผิดตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2548 จนทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมได้บนรถไฟสถานีปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา วันนี้(25 ธันวาคม พ.ศ.2562) จึงเป็นการแสดงความยกย่องน้องเรย์ โดยก่อนหน้านี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มอบประกาศนียบัตรให้ไปแล้ว ก็ขอขอบคุณที่เป็นแบบอย่างที่ดี และน่ายกย่องกับคนอื่นๆในอนาคตต่อไป พร้อมยืนยันดูแลความปลอดภัยของน้องเรย์ 100% อย่างแน่นอน
ด้าน พลเอก พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวว่า นับเป็นปรากฏการณ์ที่เมืองไทยไม่สิ้นคนดี น้องเรย์อายุไม่มาก แต่การตัดสินใจและไหวพริบปฏิภาณเกินตัว ตัดสินใจในเรื่องที่ยิ่งใหญ่เป็นผลดีต่อส่วนรวม ทั้งหมดนี้ต้องขอขอบคุณครอบครัว พ่อแม่ ที่มีพื้นฐานการอบรมที่ดี ขอบคุณสถานศึกษาต่างๆที่ได้อบรมบ่มเพาะน้องเรย์ จนมีดุลพินิจที่เหมาะสม และขอบคุณกองทัพบก หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน และทางศูนย์ฝึกด้วย เพราะน้องเรย์ได้เรียนหลักสูตรนักศึกษาวิชาทหารชั้นปีที่ 5 จบแล้ว แต่ยังไม่ได้รับยศว่าที่ร้อยตรี เพราะยังไม่จบการศึกษาชั้นปริญญาตรี แต่ทั้งหมดก็ปลูกฝังให้เป็นคนที่มีปฏิภาณไหวพริบ พวกเรา (ปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ) ขอขอบคุณในนามของคนไทยทุกคน ที่น้องเรย์ทำให้เกิดจุดพลิกผันในทางที่เป็นคุณต่อส่วนรวม ก็ขอให้เป็นแบบอย่างกับคนหนุ่ม ซึ่งถ้าคิดดี ทำดี และตัดสินใจในสิ่งที่ดี ก็สามารถช่วยชาติได้ ก็อยากให้เป็นแบบอย่างกับเยาวชนทั่วไปที่จะยึดถือ นอกจากนี้ พลเอก อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ก็ให้คำยืนยันว่า หากอยากรับราชการก็จะให้ความกรุณาเป็นพิเศษ โดยขอให้เร่งศึกษาจนสำเร็จปริญญาตรี
ขณะที่ น้องเรย์ กล่าวว่า ภูมิใจมากและขอบคุณทุกคน ช่วงเวลานั้นที่ทำไปส่วนหนึ่งเป็นห่วงคนอื่นมากกว่า และเราเรียน รด. ปี 5 ต้องมีความเป็นผู้นำ รู้จักเสียสละที่จะปกป้องคนอื่น ไม่ได้ห่วงตัวเองว่าจะเกิดอะไรขึ้น หรือจะต้องกลายเป็นเหยื่อหรือไม่ แต่ห่วงว่าใครคนอื่นจะเป็นเหยื่อหรือเปล่า ตนไม่อยากให้ใครต้องเป็นเหยื่ออีกต่อไป ส่วนการเรียน รด. ก็ได้เรื่องของความกล้าหาญ แจ้งเบาะแส กล้าที่จะทำดี ปกป้องสถาบัน และปกป้องประชาชนด้วย ต้องเป็นรั้วของชาติ และกล้าที่จะทำดีด้วย ทั้งนี้ในใจก็มีคิดไว้ว่าอยากจะเป็นทหาร ซึ่งตอนแรกที่เรียน รด. เพราะไม่ได้อยากเกณฑ์ทหาร แต่พอเรียนไปก็โอเค ไม่ได้แย่ สนุกดี ก็เลยอยากจบ รด.ปี 5 อยากจบปริญญาตรี แล้วก็อยากเป็นทหาร ซึ่งจริงๆตอนนี้เขาเปิดรับกำลังสำรอง 4 ปี แต่ไม่ทัน เพราะวุฒิปริญญาตรียังไม่ได้ // สำหรับเรื่องความปลอดภัย ส่วนตัวไม่ได้คิดอะไร แต่ทางครอบครัวเป็นห่วงมากกว่า