นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า นับตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดอาคารดำรงนิราดูร สถาบันมะเร็งแห่งชาติ เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2511 หน่วยงานของรัฐบาลในสังกัดกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข จึงได้ถือเอาวันที่ 10 ธันวาคม ของทุกปีเป็น "วันต่อต้านโรคมะเร็งแห่งชาติ" มาโดยตลอด
โดยมีสถาบันมะเร็งแห่งชาติ และโรงพยาบาลมะเร็งภูมิภาค 7 แห่งทั่วประเทศของกรมการแพทย์ เป็นหน่วยงานหลักที่ให้บริการด้านการตรวจ วินิจฉัย และรักษาโรคมะเร็ง และยังกล่าวถึงสถานการณ์โรคมะเร็งของประเทศไทย จากสถิติพบว่าโรคมะเร็งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1
ข้อมูลล่าสุดจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ พบว่าปัจจุบัน คนไทยมีผู้ป่วยโรคมะเร็ง รายใหม่ถึงวันละ 336 คน หรือ 122, 757 คนต่อปี และเสียชีวิตวันละ 221 คน หรือ 80,665 คนต่อปี โดยข้อมูลจากองค์กรระหว่างประเทศเพื่อการวิจัยโรคมะเร็งรายงานว่า อุบัติการณ์โรคมะเร็งในประเทศไทย พบโรคมะเร็งใน เพศหญิง 151 คนต่อประชากรหนึ่งแสนคน และพบในเพศชาย 169.3 คน ต่อประชากรหนึ่งแสนคน
นายแพทย์วีรวุฒิ อิ่มสำราญ ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวเสริมว่า โรคมะเร็งที่พบมาก ในเพศชายไทยคือ มะเร็งตับและท่อน้ำดี ส่วนในเพศหญิงไทยโรคมะเร็งที่พบมากที่สุด คือ โรคมะเร็งเต้านม แม้โรคมะเร็งจะเป็นโรคร้าย แต่เราสามารถปฏิบัติตนเพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งได้ ด้วยการใช้หลักการ 5 ทำ 5 ไม่ ห่างไกลมะเร็ง
โดย 5 ทำ ได้แก่
1) ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
2) ทำจิตใจให้แจ่มใส ไม่เครียด
3) กินผักผลไม้
4) กินอาหารหลากหลาย
5) ตรวจร่างกายเป็นประจำ
ส่วน 5 ไม่ ได้แก่
1) ไม่สูบบุหรี่หรือสูดดม ควันบุหรี่
2) ไม่มั่วเซ็กซ์
3) ไม่ดื่มสุรา
4) ไม่ตากแดดจ้า
5) ไม่กินปลาน้ำจืดดิบ
หากปฏิบัติตามหลักการนี้ สามารถป้องกันโรคมะเร็ง ได้ถึง 40 % นอกจากนี้ ควรหมั่นสังเกตความผิดปกติของตนเองจาก 7 สัญญาณอันตรายโรคมะเร็ง ได้แก่
1) ระบบขับถ่าย ที่เปลี่ยนแปร
2) แผล ที่ไม่รู้จักหาย
3) ร่างกาย มีก้อนตุ่ม
4) กลุ้มใจเรื่องการกลืนกินอาหาร
5) ทวารทั้งหลาย มีเลือดไหล
6) ไฝ หูด ที่เปลี่ยนไป
7) ไอ และ เสียงแหบ จนเรื้อรัง
ที่สำคัญควรรีบไปพบแพทย์ หากมีอาการต่าง ๆ เกิน 3 สัปดาห์ และควรมาตรวจสุขภาพเพื่อค้นหาโรคมะเร็งระยะเริ่มแรกเป็นประจำ ปีละ1 ครั้ง เป็นอย่างน้อย